หนังแฟนตาซีคือหนังที่เน้นการจินตนาการ ฉากภาพแสงสีสวยงาม เทคนิคตระการตา เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ซึ่งหนังแฟนตาซีส่วนใหญ่นิยมดัดแปลงมาจากหนังสือนิยายและนำเสนอในรูปแบบเป็นภาพยนตร์จะมีเรื่องอะไรที่สนุกน่าสนใจบ้างมาดูกันค่ะ
1. I Frankenstein (2014) สงครามล้างพันธุ์อมตะ
เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นแนวแฟนตาซีวิทยาศาสตร์ที่เขียนและกำกับโดย Stuart Beattie จากนวนิยายกราฟฟิคแบบดิจิทัลเท่านั้นโดย Kevin Grevioux ซึ่งเป็นการร่วมผลิตระหว่างประเทศระหว่างสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย อำนวยการสร้างโดย Tom Rosenberg, Gary Lucchesi, Richard Wright, Andrew Mason และ Sidney Kimmel นำแสดงโดย Aaron Eckhart, Bill Nighy, Yvonne Strahovski, Miranda Otto และ Jai Courtneyเรื่องราวของ อดัม ที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากการทดลองของ ดร. วิคเตอร์ แฟรงคเกนสไตน์ โดยการนำชิ้นส่วนของมนุษย์มาเย็บต่อกันและช็อตด้วยไฟฟ้า ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ โดยเขามีชีวิตอยู่มากกว่า 200 ปี อาศัยอยู่ตามมุมมืดของเมืองต่าง ๆ ปรากฎตัวในยามมืดมิดเท่านั้น แต่ต้องมาอยู่ท่ามกลางสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์คือกากอยส์กับเหล่าปีศาจที่ฟาดฟันกันมานานหลายศตวรรษ แต่เขาไม่ได้ต้องการชัยชนะในสงครามครั้งนี้หรือความมีชีวิตเป็นอมตะ เขาต้องการเพียงแค่เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น
เป็นหนังที่สร้างจากโครงเรื่องของแฟรงค์เกนสไตล์ผสมผสานเรื่องราวระหว่างสงครามกากอยส์กับปีศาจได้อย่างสนุกลงตัว ถึงแม้จะไม่ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวอะไรมากนัก ซึ่งหนังดำเนินเรื่องเร็วไม่ยืดเยื้อ ฉากแอ็คชั่นสนุกตระการตา ฉากสวย เอฟเฟคดีงาม
คะแนนส่วนตัว 7.5/10
ตัวอย่าง
2. THE HOBBIT
มีด้วยกันสามภาคสร้างจากหนังสือนิยาย โดยเป็นจุดกำเนิดเรื่องราวต่อมาของ The Lord of the Ring ซึ่งชื่นชอบแค่สองภาคหลัง
2.1 THE HOBBIT 2: THE DESOLATION OF SMAUG (2013) เดอะ ฮอบบิท 2: ดินแดนเปลี่ยวร้างของสม็อค
เป็นภาพยนตร์ผจญภัยแฟนตาซีที่กำกับโดย Peter Jackson และอำนวยการสร้างโดย WingNut Films ร่วมกับ New Line Cinema และ Metro-Goldwyn-Mayer ซึ่งเป็นภาคที่สองในซีรีส์ภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายเรื่อง The Hobbit โดย J.R.R.Tolkien
รูปที่ 2 THE HOBBIT 2: THE DESOLATION OF SMAUG (2013) เดอะ ฮอบบิท 2: ดินแดนเปลี่ยวร้างของสม็อค
หลังจากรอดพ้นมาได้จากภาคแรก THE HOBBIT 1: AN UNEXPECTED JOURNEY (2012) เดอะ ฮอบบิท 1: การผจญภัยสุดคาดคิด เหล่าคนแคระก็ได้มุ่งหน้าไปทางตะวันออก โดยระหว่างทางได้พบกับโบออนซึ่งเปลี่ยนสีผิวได้และฝูงแมงมุมยักษ์ในป่าเมิร์กวูด หลังหลบหนีจากการถูกเอล์ฟป่าจับตัวไว้ พวกคนแคระจึงเดินทางไปยัง Lake-town และได้พบกับหุบเขาเดียวดายที่ต้องเผชิญหน้ากับความอันตรายที่โหดร้ายมากที่สุดอย่างมังกรสมอว์ก ซึ่งมันได้เฝ้าสมบัติไว้อยู่ แต่มันไม่ได้มาทดสอบความกล้าหาญที่อยู่ในตัวพวกเขาเท่านั้น ยังรวมถึงมิตรภาพของพวกเขาและไหวพริบแห่งการเอาชีวิตรอด
หนังค่อนข้างยาว อาจจะมีช่วงที่น่าเบื่อบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งเนื้อหาไม่ค่อยมีอะไรมาก เนื่องจากเป็นการผจญภัยของคนแคระระหว่างการเดินทางเท่านั้น ซึ่งฉากแอ็คชั่นเยอะกว่าภาคแรก แอ็คชั่นสนุก ฉากสวย เอฟเฟคดีสมจริง มังกรดูยิ่งใหญ่ตระการตา
คะแนนส่วนตัว 8/10
ตัวอย่าง
2.2 THE HOBBIT 3: THE BATTLE OF THE FIVE ARMIES (2014) เดอะ ฮอบบิท 3: สงครามห้าเหล่าทัพ
เป็นบทสรุปที่เปิดเรื่องได้ต่อเนื่องจากภาคสองและต่อเนื่องไปยังหนังภาคต่ออย่าง The Lord of the Rings ซึ่งความยาวหนังสั้นกว่าภาคสองและเนื้อหาก็ไม่ค่อยมีอะไรมากเช่นกัน ภาคนี้จะเน้นการทำสงครามกันแทบทั้งเรื่อง ซึ่งดูยิ่งใหญ่อลังการ ดูลงทุนมาก ฉากแอ็คชั่น เอฟเฟคก็ยังคงสนุกและดีสมจริงไม่แพ้ภาคสองเช่นกัน
คะแนนส่วนตัว 8/10
ตัวอย่าง
เนื้อเรื่องเรียบง่าย ไม่ค่อยมีอะไรต่างจากนิทานมาก พอเดาเรื่องได้แทบทั้งเรื่อง แต่ดำเนินเรื่องเร็วไม่ค่อยน่าเบื่อ ฉากสวย เอฟเฟคดูสมจริงตระการตา แต่ฉากสงครามระหว่างยักษ์กับมนุษย์มีน้อยไปหน่อย มาเน้นแค่ช่วงท้าย ๆ เรื่องและการปราบยักษ์ในตอนท้ายก็ดูง่ายไป
คะแนนส่วนตัว 7/10
ตัวอย่าง
4. SEVENTH SON (2014) บุตรคนที่ 7 สงครามมหาเวทย์
เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีอเมริกันที่กำกับโดย Sergei Bodrov และนำแสดงโดย Ben Barnes, Jeff Bridges, Alicia Vikander และ Julianne Moore ซึ่งมีพื้นฐานมาจากนวนิยายเรื่อง The Spook's Apprentice โดย Joseph Delaney
เรื่องราวในยุคแห่งเวทมนตร์เมื่อนักรบจอมขมังเวทย์หนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ได้เดินทางตามหาบุตรคนที่ 7 ซึ่งเป็นคนสุดท้ายตามคำพยากรณ์ว่าจะสามารถต่อสู้กับราชินีได้ ผู้ซึ่งเกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษ สามารถเรียนรู้ฝึกฝนได้อย่างรวดเร็ว จนได้ร่วมต่อสู้กับเหล่าราชินีและกองทัพปีศาจของเธอ
เป็นหนังที่สร้างมาจากนิยายเช่นเดียวกัน เปิดเรื่องได้น่าสนใจดี ดำเนินเรื่องเร็วไม่น่าเบื่อเลย เนื่อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรมาก เดาเรื่องได้ไม่ยาก สัตว์ประหลาดต่าง ๆ ก็ทำได้สมจริงน่าสนใจ ฉากเปิดตัวสัตว์ประหลาดแต่ละตัวก็ดูยิ่งใหญ่อลังการ แต่สัตว์ประหลาดบางตัวตายง่ายไปหน่อยยังใช้ได้ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ ฉากสถานที่สวย เอฟเฟคดี ฉากต่อสู้สนุกดี
คะแนนส่วนตัว 7.5/10
ตัวอย่าง
5. The Darkest Minds (2018) ดาร์กเกสท์ มายด์ส จิตทมิฬ
เป็นภาพยนตร์ดราม่าซูเปอร์ฮีโร่อเมริกันที่กำกับโดย Jennifer Yuh Nelson และเขียนโดย Chad Hodge โดยอิงจากนวนิยายสำหรับผู้ใหญ่ของ Alexandra Bracken ใน ปี 2012 ในชื่อเดียวกัน
เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกจับตัวไปจากพ่อแม่ของเธอ โดยพาเธอไปไว้ในค่ายรวมกับเด็กคนอื่น ๆ ที่มีอาการผิดปกติหรือเรียกอีกอย่างว่ามีพลังพิเศษ โดยจะมีการแบ่งแยกด้วยกลุ่มสีต่าง ๆ ตามระดับความร้ายแรง ซึ่งพวกเขาต้องการกำจัดระดับสีที่ร้ายแรงที่สุด ซึ่งเธอคือหนึ่งในนั้น รวมทั้งเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ของเธอด้วย เธอมีพลังร้ายแรงขนาดไหน แล้วจะเอาชีวิตรอดจากพวกเขาไปได้หรือไม่
เปิดเรื่องด้วยการเล่าเรื่องราวสมัยวัยเด็กของตัวละครหลัก พร้อมฉายถึงเรื่องราวช่วงที่ตัวละครหลักยังเด็กอยู่ โดยช่วงแรกจะเป็นการปูเรื่องราวของตัวละครหลักในวัยเด็กและตัวละครอื่น ๆ บ้างเล็กน้อย ก่อนตัดเข้าเรื่องซึ่งจะมาฉายในช่วงวัยรุ่นของตัวละครหลัก และค่อย ๆ ฉายถึงตัวละครอื่น ๆ ทีละคน ตัวละครแต่ละคนน่าสนใจดี คัดนักแสดงมาได้ดี โดยเฉพาะพระนางของเรื่องแสดงได้เข้ากันดีดูแล้วทำให้ยิ้มและหัวเราะบ้าง พลังของแต่ละคนก็ดูน่าสนใจ มีการใช้เพลงประกอบเป็นช่วง ๆ มีช่วงให้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครบ้าง โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ ฉากปะทะกันทำได้สนุกดี ถึงแม้จะไม่มาก สำหรับการใช้เอฟเฟกต์ก็ทำได้ดีดูลงทุน ดำเนินเรื่องได้น่าสนใจชวนติดตาม ถึงแม้บางช่วงจะมีน่าเบื่อไปบ้าง แต่ก็ยังพอมีฉากน่ารัก ๆ ตัดช่วงที่น่าเบื่อออกไปได้ มีหักมุมบ้าง มีดราม่าบ้างโดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ ทำได้ซึ้งกินใจดี ดูแล้วสงสารตัวละคร
คะแนนส่วนตัว 7.5/10
ตัวอย่าง6. Seuls (2017) ฝ่ามหันตภัยเมืองร้าง
เป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซีสัญชาติฝรั่งเศสที่ร่วมอำนวยการสร้างและกำกับการแสดงโดย David Moreau ซึ่งดัดแปลงมาจากการ์ตูนแนวฝรั่งเศส-เบลเยี่ยมที่มีชื่อเดียวกันโดย Bruno Gazzotti และ Fabien Vehlmann
รูปที่ 7 Seuls (2017) ฝ่ามหันตภัยเมืองร้าง
เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาหลังกลับจากการเที่ยวสวนสนุก แต่กลับไม่พบใครเลย แม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอ ซึ่งเมืองทั้งเมืองเหมือนกลายเป็นเมืองร้างที่ไร้ผู้คน จากนั้นเธอก็ได้พบกับเด็กคนอื่น ๆ และได้ช่วยกันออกตามหาคนอื่น ๆ แต่แล้วก็มีคนแอบโจมตีพวกเธอ พร้อมกับหมอกบางอย่างที่เคลื่อนตัวใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ใครกันที่แอบโจมตีพวกเธอ เขาต้องการอะไร พวกคนหายไปไหนกันหมด เกิดอะไรขึ้นกับเมืองแห่งนี้กันแน่
คะแนนส่วนตัว 6.5/10
ตัวอย่าง
7. Legend of The Naga Pearls (2017) อภินิหารตำนานมุกนาคี
ชื่อจีน 鲛珠传 (Jiāo zhū chuán) เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีผจญภัยของจีนที่กำกับโดย Yang Lei ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ตั้งขึ้นในโลกสมมุติของ Novoland เข้าฉายเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2017 ในประเทศจีน นำแสดงโดย Wang Talu, Zhang Tianai และ Sheng Guansen
รูปที่ 8 Legend of The Naga Pearls (2017) อภินิหารตำนานมุกนาคี
เรื่องราวของหนีคงคงหรือเจ้าของฉายาเซียนดาวโจร เด็กกำพร้าผู้มีฝ่ามือเรืองแสงติดตัวมาแต่เด็ก จนถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดที่ถูกเพื่อนแกล้ง จึงไม่มีเพื่อน มีเพียงโอก้าที่เป็นเพื่อนเล่นกับเขา จนเมื่อเขาถูกจับและได้เสนอ เพื่อแลกกับการปล่อยตัว เธอจึงมอบงานชิ้นใหญ่ให้เขาไปทำ โดยต้องไปยังสถานที่ต้องห้ามขององค์ชายที่ชอบสะสมของล้ำค่าหายากในอีกสองวัน ซึ่งจะเปิดให้คนได้เข้าชมของหายากทุกชิ้นที่ประเมินค่าไม่ได้ ทำให้เขาได้เผลอไปครอบครองกล่องใบหนึ่งที่มีไข่มุกนาคีอยู่ข้างใน ซึ่งเป็นอาวุธทรงพลังที่หัวหน้าเผ่าปักษาหรือเซวี่ยเลี่ยกำลังตามหาอยู่ เพื่อนำไปเปิดดวงตาสวรรค์สร้างความวิบัติล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์และกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมา แต่เขาเปิดกล่องยังไงก็เปิดไม่ได้ เขาจึงต้องร่วมมือกับเฮยอวี่เผ่าปักษาและกาลี่ องค์ชาย เพื่อหาคนที่เปิดกล่องได้ แต่ยังไม่ทันไรก็ถูกเซวี่ยเลี่ยแย่งไปได้ พวกเขาจึงต้องรีบไปขัดขวางและช่วยฮ่องเต้ให้ทัน
คะแนนส่วนตัว 6.5/10
ตัวอย่าง
8. R.L. Stine’s Monsterville: Cabinet of Souls (2015) อาร์ แอล สไตน์ส เมืองอสุรกาย ตอนตู้กักวิญญาณ
เป็นภาพยนตร์สยองขวัญแนวตลกอเมริกันที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันในปี 2012 ของ R.L. Stine กำกับโดย Peter DeLuise เขียนบทและอำนวยการสร้างโดย Dan Angel และ Billy Brown นำแสดงโดย Dove Cameron, Katherine McNamara, Braeden Lemasters, Tiffany Espensen และ Ryan McCartan
รูปที่ 9 R.L. Stine’s Monsterville: Cabinet of Souls (2015) อาร์ แอล สไตน์ส เมืองอสุรกาย ตอนตู้กักวิญญาณ
เรื่องราวของนักเรียนโรงเรียนมัธยมปลายแดนฟิลด์ เคลเลน, เบธ, นิโคล และ ลุค พร้อมด้วย ฮันเตอร์ เพื่อนใหม่ ที่ได้รับคำชวนจากผู้ลึกลับสองคน ฮิสทีเรีย และ ลิลิธในระหว่างที่พวกเขากำลังสนุกสนานกับงานเทศกาลฮาโลวีนและฤดูเก็บเกี่ยวประจำปีที่เมืองโอลด์ ทาวน์ ให้เข้าสู่ห้องสยองขวัญของด็อกเตอร์ฮิสทีเรีย กากอยล์ส-ก๊อบลิน ห้องที่ไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน แต่เหมาะกับผู้แสวงหาความเขย่าขวัญสั่นประสาทในคืนพรุ่งนี้และปิดตอนเที่ยงคืนของวันฮาโลวีน เมื่อพวกเขาได้ยินดังนั้นจึงสนใจมากและมาซื้อตั้วเข้าห้องสยองขวัญ แต่ในระหว่างกำลังเดินชมห้องสยองขวัญ เบธได้หลงทางจนไปเจอกับบางสิ่งที่ดูสมจริงมาก อีกทั้งเธอยังค้นพบว่ามีสาวน้อย แอนเดรีย เพย์ตัน หายตัวไปจากเมืองเฟเดอร์สัน ทำให้เธอสงสัยว่ามีบางอย่างในนั้นที่ไม่อยากให้เห็น จึงได้แอบเข้ามาดูและได้พบกับตู้เก็บวิญญาณ ที่บอกว่าอย่าเปิดตู้แห่งวิญญาณในห้องสยองขวัญเด็ดขาด และตอนนี้ตู้เก็บวิญญาณก็ต้องการวิญญาณดวงใหม่
คะแนนส่วนตัว 6.5/10
ตัวอย่าง
9. AVATAR
เป็นภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์มหากาพย์ที่กำกับ เขียนบท ร่วมผลิต และร่วมตัดต่อโดย James Cameron และนำแสดงโดย Sam Worthington, Zoe Saldana, Stephen Lang, Michelle Rodriguez และ Sigourney Weaver
การพัฒนาเริ่มขึ้นในปี 1994 เมื่อ James Cameron เขียนบทภาพยนตร์ความยาว 80 หน้า การถ่ายทำควรจะเกิดขึ้นหลังจากภาพยนตร์ไททานิคของ James Cameron ในปี 1997 เสร็จสิ้น โดยมีกำหนดออกฉายในปี 1999 อย่างไรก็ตาม ตามคำกล่าวของ James Cameron เทคโนโลยีที่จำเป็นยังไม่พร้อมสำหรับการบรรลุวิสัยทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ การทำงานเกี่ยวกับภาษาของ Na'vi เริ่มขึ้นในปี 2005 โดยเริ่มพัฒนาบทภาพยนตร์และจักรวาลสมมติในช่วงต้นปี 2006 ได้รับงบประมาณอย่างเป็นทางการที่ 237 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ใหม่ที่ได้รับจากความร่วมมือกับ Weta Digital ในเมืองเวลลิงตัน การประมาณการอื่น ๆ ระบุต้นทุนระหว่าง 280 ล้านถึง 310 ล้านดอลลาร์สำหรับการผลิต และ 150 ล้านดอลลาร์สำหรับการโปรโมต ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เทคนิคการถ่ายทำโมชันแคปเจอร์แบบใหม่อย่างกว้างขวาง และเผยแพร่สำหรับการรับชมแบบดั้งเดิม การรับชมแบบ 3 มิติ (โดยใช้รูปแบบ RealD 3D, Dolby 3D, XpanD 3D และ IMAX 3D) และประสบการณ์ "4D" ในโรงภาพยนตร์ของเกาหลีใต้ที่ถูกเลือก
ฉายรอบปฐมทัศน์ในลอนดอนเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2009 และออกฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 9 รางวัล รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม และได้รับรางวัล 3 รางวัลในสาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม, และวิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกโทรทัศน์ 3 มิติ และทำให้ภาพยนตร์ 3 มิติ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น หลังจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ Cameron ได้เซ็นสัญญากับ 20th Century Fox เพื่อสร้างภาคต่อสี่ภาค ภาคต่อเรื่องแรก Avatar: The Way of Water ออกฉายเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2022 ผ่านบทวิจารณ์ที่เหมือนกัน แต่ก็สังเกตเห็นการปรับปรุงเช่นกัน และ Avatar 3 ได้เสร็จสิ้นการถ่ายทำหลักแล้วและจะออกฉายในปี 2024 ภาคต่อมีกำหนดฉายในปี 2026 และในปี 2028 สมาชิกนักแสดงหลายคนกลับมา รวมทั้ง Worthington, Saldana, Lang และ Weaver
รูปที่ 10 Avatar 1 (2009) อวตาร
เรื่องราวของ เจค ซัลลี่ อดีตนาวิกโยธินพิการ ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอวตาร ด้วยการจับคู่ทางพันธุกรรม ใช้มนุษย์ลูกผสมนาวี ที่เรียกว่า "อวตาร" หลังจากพี่ชายฝาแฝดของเขาถูกฆ่าตาย โดยมีเป้าหมาย เพื่อสานสัมพันธ์และเจรจากับนาวี ให้ข้อมูลแก่ พันเอกไมล์ส ควาริช หัวหน้ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของ RDA แลกกับขาใหม่ของเขา เพื่อขุดแร่อูนอบแทนเนียมอันมีค่า โดยในระหว่างที่เขาทำงานได้พบกับ เนย์ติริ ลูกสาวของผู้นำโอมาติยา ที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชาวนาวี และนั่นทำให้ พันเอกไมล์ส ควาริช โมโห จึงสั่งกองกำลังจู่โจมแพนดอร่า
คะแนนส่วนตัว 6.5/10
ตัวอย่าง
9.2 AVATAR : THE WAY OF WATER (2022) อวตาร 2 วิถีแห่งสายน้ำ
เป็นภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์มหากาพย์ของอเมริกา ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Avatar ในปี 2009 ที่กำกับโดย James Cameron จัดจำหน่ายโดย 20th Century Studios โดย Cameron อำนวยการสร้างร่วมกับ Jon Landau และเขียนบทร่วมกับ Rick Jaffa และ Amanda Silver ซึ่งอิงจากเรื่องราวที่ทั้งสามเขียนร่วมกับ Josh Friedman และ Shane Salerno นำแสดงโดย Sam Worthington, Zoe Saldaña, Stephen Lang, Joel David Moore, CCH Pounder, Giovanni Ribisi, Dileep Rao และ Matt Gerald กลับมารับบทเดิมจากภาพยนตร์ต้นฉบับ โดย Sigourney Weaver กลับมาในบทบาทที่แตกต่างออกไป นักแสดงใหม่ประกอบด้วย Kate Winslet, Cliff Curtis, Edie Falco และ Jemaine Clement
โดย Cameron ระบุในปี 2006 ว่าเขาต้องการสร้างภาคต่อของ Avatar หากประสบความสำเร็จ และประกาศภาคต่อสองภาคแรกในปี 2010 หลังจากประสบความสำเร็จอย่างแพร่หลายของภาพยนตร์เรื่องแรก โดย The Way of Water มีเป้าหมายที่จะออกฉายในปี 2014 อย่างไรก็ตาม การเพิ่มภาคต่ออีก 3 ภาค รวมเป็นภาพยนตร์ Avatar ทั้งหมด 5 เรื่อง และความจำเป็นในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เพื่อถ่ายทำฉากการจับภาพใต้น้ำ ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ทำให้เกิดความล่าช้าอย่างมาก เพื่อให้ทีมงานมีเวลามากขึ้นในการ งานเขียน งานเตรียมการและวิชวลเอฟเฟกต์ กระบวนการถ่ายทำซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันกับภาพยนตร์เรื่อง Avatar เรื่องที่สามที่ยังไม่มีชื่อในปัจจุบัน เริ่มขึ้นที่แมนฮัตตันบีช แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2017 สถานที่ถ่ายทำย้ายไปที่เวลลิงตันเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2017 และสิ้นสุดในปลายเดือนกันยายน 2020 หลังจากสามปี
หลังจากความล่าช้าซ้ำแล้วซ้ำอีกในกำหนดการฉายที่คาดไว้ Avatar: The Way of Water ฉายรอบปฐมทัศน์ในลอนดอนเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2022 และเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 16 ธันวาคม 2022 องค์กรต่าง ๆ เช่น National Board of Review และ American Film Institute ยกให้ Avatar: The Way of Water เป็น 1 ใน 10 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – ดราม่า และผู้กำกับยอดเยี่ยมจากงานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 80
เรื่องราวของ เจค ซัลลี่ ที่ได้ใช้ชีวิตในฐานะหัวหน้าของโอมาติยา พร้อมทั้งต้องเลี้ยงดูครอบครัวอย่าง เนย์ติริ ภรรยา, เนเตยัม ลูกชายคนโต, โลอัค ลูกชายคนรอง, คีรี ลูกสาวคนโต และ ทู้ค น้องสาวคนเล็ก รวมทั้ง สไปเดอร์ ลูกชายของพันเอกไมล์ส ควาริช ที่เกิดบนแพนดอร่า ซึ่งไม่สามารถถูกส่งมายังโลกด้วยความเย็นได้เนื่องจากอายุยังน้อย พวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข จนกระทั่ง คนจากฟ้าที่นำโดยพันเอกไมล์ส ควาริช ในร่างของอวตารพร้อมกับพรรคพวกของเขา ร่วมด้วยผู้กองได้บุกเข้ามายังแพนดอร่า โดยมีเหตุผลเดียวคือต้องการล่าตัวคนทรยศอย่าง เจค ซัลลี่ ที่ได้ช่วยเหล่าอวตารกำจัดพวกเดียวกัน เขาจึงต้องไถ่โทษตัวเอง เพื่อหนีสงครามด้วยการเนรเทศตัวเองออกจากโอมาติยาพร้อมกับครอบครัวไปหาที่พักพิงอื่นยังกลุ่มชาวแนวปะการัง เมตเคยิน่าที่ชายฝั่งตะวันออกของแพนดอร่า โดยพวกเขาต้องเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนในแนวปะการัง แต่ไม่นานพวกเขาก็ต้องทำให้ชาวเมตเคยิน่าเดือดร้อน เมื่อพันเอกไมล์ส ควาริชไม่ปล่อยเขาไปและยังคงตามล่าตัวจนเจอ
คะแนนส่วนตัว 7/10
ตัวอย่าง
ขอบคุณภาพจาก Hopscotch Features รูปที่ 1
ขอบคุณภาพจาก Facebook The Hobbit รูปที่ 2 / รูปที่ 3
ขอบคุณภาพจาก Legendary Pictures รูปที่ 4
ขอบคุณภาพจาก Moving Picture Company รูปที่ 5
ขอบคุณภาพจาก 20th Century Fox รูปที่ 6
ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Echo Films รูปที่ 7 / เครดิต Media Asia Films รูปที่ 8
ขอบคุณภาพจาก Universal 1440 Entertainment รูปที่ 9
ขอบคุณภาพจาก Facebook Avatar รูปที่ 10
ขอบคุณภาพจาก 20th Century Studios รูปที่ 11
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น