มีทั้งหมด 3 ภาค
1. Joy Ride 1 (2001) เกมหยอก หลอกไปเชือด ภาค 1
เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญสยองขวัญอเมริกันที่กำกับโดย John Dahl และเขียนบทโดย J. J. Abrams และ Clay Tarver นำแสดงโดย Paul Walker และ Steve Zahn
รูปที่ 1 Joy Ride 1 (2001) เกมหยอก หลอกไปเชือด ภาค 1
เรื่องราวของวัยรุ่นสามคนที่ขับรถเดินทางไปผจญภัยข้ามประเทศในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน โดยระหว่างที่กำลังเดินทางอยู่นั้นพวกเขาคุยเล่นผ่านวิทยุรับส่งคลื่นสั้น แต่แล้วดันมีเสียงผู้ชายแทรกเข้ามา พร้อมกับโทรมาก่อกวนอยู่ตลอดเวลา พวกเขาจึงต้องพยายามโทรติดต่อขอความช่วยเหลือ ชายคนนั้นต้องการอะไรจากพวกเขากันนะ
เปิดเรื่องฉายถึงตัวละครหลักที่กำลังคุยโทรศัพท์กันก่อนเดินทาง โดยช่วงที่เดินทางในช่วงแรกค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย ซึ่งหลายฉากฉายนานเกิน โดยไม่ค่อยมีความจำเป็น พอเดาเรื่องได้บ้าง มีช่วงให้ลุ้นบ้างเป็นช่วง ๆ ดูแล้วชวนหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหนังจะเน้นไปที่การเดินทางแล้วถูกเสียงจากคนแปลกหน้าก่อกวนมากกว่า ซึ่งกว่าจะฉายถึงการเล่นเกมก็เป็นช่วงท้าย ๆ เรื่อง โดยในช่วงแรกก็ไม่มีเหตุผลจูงใจในการเล่นเกม
คะแนน 4/10
ตัวอย่าง
2. Joy Ride 2 Dead Ahead (2008) เกมหยอกหลอกไปเชือด ภาค 2
2. Joy Ride 2 Dead Ahead (2008) เกมหยอกหลอกไปเชือด ภาค 2
เป็นภาพยนตร์สยองขวัญอเมริกันที่กำกับโดย Louis Morneau ซึ่งเป็นภาคต่อของ Joy Ride
นำแสดงโดย Nicki Aycox, Nick Zano, Kyle Schmid, Laura Jordan และ Mark Gibbon
นำแสดงโดย Nicki Aycox, Nick Zano, Kyle Schmid, Laura Jordan และ Mark Gibbon
รูปที่ 2 Joy Ride 2 Dead Ahead (2008) เกมหยอกหลอกไปเชือด ภาค 2
เรื่องราวของวัยรุ่นสี่คนที่ขับรถไปเที่ยวเวกัสด้วยเส้นทางขนานกับเส้นทางหลวง แต่ในระหว่างที่เดินทางอยู่นั้น รถเกิดเสียกระทันหัน พวกเขาจึงจอดรถทิ้งไว้แล้วเดินไปขอความช่วยเหลือ จนได้มาเจอกับบ้านกลังหนึ่งที่ซึ่งไม่มีคนอยู่อาศัยอยู่และมีรถจอดทิ้งไว้ พวกเขาจึงขอยืมรถไปใช้ก่อนแล้วค่อยเอามาคืน โดยได้ทิ้งเบอร์โทรไว้ก่อนไปให้เจ้าของบ้านไว้ติดต่อ จากนั้นพวกเขาก็ถูกโทรมาก่อกวนให้เล่นเกม เพื่อแลกกับความปลอดภัยของใครบางคน ทำให้พวกเขาต้องตกลงเล่นเกมตามที่เขาต้องการ
ดำเนินเรื่องไม่ต่อเนื่องกับภาคแรกเปลี่ยนตัวละครใหม่หมด แต่ให้บรรยากาศและอะไรหลาย ๆ อย่างคล้ายภาคแรก และดำเนินเรื่องเร็วกว่า น่าสนใจกว่า ฉากฆ่าโหดกว่า เน้นไปทางการเล่นเกมมากกว่า ซึ่งตรงประเด็นที่หนังต้องการสื่อ โดยเปิดเรื่องก็จัดฉากโหดเลย แต่เดาเรื่องได้ไม่ยาก จากนั้นก็ตัดเข้าเรื่องฉายถึงตัวละครหลักที่กำลังเดินทางและเกิดรถเสีย จึงได้เดินไปขอความช่วยเหลือ จนได้มาเจอบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเหมือนบ้านร้างที่ไม่มีคนอยู่มานาน จากนั้นก็ได้มาเจอบ้านอีกหลังพร้อมกับรถ ซึ่งบ้านทั้งสองหลังดูลึกลับน่าสนใจดี จากนั้นก็เป็นการเล่นเกมตามที่คนร้ายต้องการ ซึ่งดูแล้วอึดอัดกดดัน สงสารตัวละคร ชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครไปกับการเล่นเกมตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็มีช่วงที่ตลกทำให้ยิ้มและหัวเราะบ้าง ตัวละครยังพอฉลาด แต่ก็มีจุดที่มาในรูปแบบเดิม ๆ อยู่เล็กน้อย ส่วนคนร้ายก็ฉลาดดี โดยหนังจะไม่ฉายให้เห็นหน้าคนร้ายชัด ๆ ซึ่งบางจุดพอเดาเรื่องได้บ้างและมีเดาผิดบ้าง มีฉากโหดบ้าง มีจุดที่ไม่สมเหตุสมผลบ้าง จบทิ้งท้ายต่อภาคสาม
คะแนน 7/10
ตัวอย่าง
3. Joy Ride 3 Roadkill (2014) เกมหยอก หลอกไปเชือด 3 ถนนสายเลือด
3. Joy Ride 3 Roadkill (2014) เกมหยอก หลอกไปเชือด 3 ถนนสายเลือด
รูปที่ 3 Joy Ride 3 Roadkill (2014) เกมหยอก หลอกไปเชือด 3 ถนนสายเลือด
เรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังไปแข่งรถ โดบต้องการใช้เส้นทางที่มีชื่อว่าถนนสายเชือด ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีคนตายหายสาปสูญและขนส่งยาเสพติดมากที่สุด ทั้ง ๆ ที่มีคนเตือนพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงยืนยันที่จะไป และเมื่อขับไปได้สักพักพวกเขาดันไปหาเรื่องรถบรรทุกคันหนึ่งเข้า หลังจากนั้นเจ้าของรถบรรทุกคันนี้ก็โทรมาก่อกวนและไล่ตามพวกเขาตลอดทาง
ดำเนินเรื่องต่อเนื่องจากภาคก่อนหน้า เปิดเรื่องให้บรรยากาศเหมือนภาคแรก ซึ่งเปิดมาก็ให้เล่นเกมเลย โดยจะฉายเหยื่อรายอื่นก่อนตัดเข้าเรื่องฉายตัวละครหลักแต่ละคน ซึ่งตัวละครหลักเปลี่ยนใหม่หมดเช่นกันและใช้เยอะขึ้น โดยช่วงแรกมีช่วงที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะบ้าง และบางช่วงที่ให้บรรยากาศเหมือนภาคสอง ซึ่งเป็นการจับเอาสองภาคมารวมกันได้ดี มาแนวคล้าย ๆ กัน เน้นฉายบนถนนเป็นหลัก ยังคงมีหักมุมหลอกคนดูบ้าง ดูแล้วชวนหวาดระแวงฆาตกรตลอดทั้งเรื่อง แต่ยังจบได้ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากยังคงจบทิ้งท้ายเหมือนมีต่อ โดยยังคงใช้รถบรรทุกคันเดิม ฆาตกรคนเดิม แต่ภาคนี้จะฉายให้เห็นหน้าฆาตกรชัดเจนขึ้น ฉากฆ่าที่โหดขึ้นเสียวขึ้น โดยภาคนี้ไม่ได้เน้นไปที่การเล่นเกมมาก แต่จะเน้นไปที่การแลกเปลี่ยนตัวประกันและการทรมานเหยื่อให้ตายมากกว่า ซึ่งถือว่าทำได้โหดดี บางฉากดูลงทุนมากขึ้น มีช่วงให้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย แต่ก็มีบางจุดที่พอเดาเรื่องได้บ้าง ซึ่งเป็นจุดที่หนังค่อนข้างเน้นพอสมควร และเลือดที่ดูจะไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่
คะแนน 7/10
ตัวอย่าง
ขอบคุณภาพจาก Regency Enterprises รูปที่ 1
ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต 20th Century Fox Home Entertainment รูปที่ 2
ขอบคุณภาพจาก 20thcenturystudios รูปที่ 3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น