ความตายอาจเป็นเรื่องไกลตัวของใครหลาย ๆ คน แต่จริง ๆ แล้วความตายคือเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก บางครั้งแค่เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจทำให้เราถึงแก่ความตายได้ ถ้าเราใช้ชีวิตด้วยความประมาทมักง่าย ต่อให้ช่วงเวลานั้นเรายังไม่ตายแค่เพียงได้รับความบาดเจ็บ แต่เมื่อไหร่ที่ดวงเราถึงคาดแน่นอนว่าย่อมหนีความตายไม่พ้นแน่ ต่อให้โกงความตาย ถึงยังไงเราก็ยังเจอมันแน่นอน อย่างเช่นในภาพยนตร์เรื่อง Final Destination โกงความตาย ที่ตัวละครในเรื่องสามารถเห็นและสัมผัสได้ถึงความตายล่วงหน้าของพวกเขา แล้วได้โกงความตายนั้น ต่อให้ช่วงเวลานั้นเรามีชีวิตรอด แต่ยังไงก็หนีความตายไม่พ้น เพราะเราไม่อาจกำหนดความตายได้นั่นเอง ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งหมด 6 ภาคด้วยกัน โดยประกอบด้วยภาพยนตร์ 5 เรื่องหนังสือการ์ตูน 2 เรื่อง และนวนิยาย 9 เรื่อง ซึ่งสร้างโดย Jeffrey Reddick และจัดจำหน่ายโดย New Line Cinema ซึ่งในภาพยนตร์แน่นอนต้องมีฉากการตายและฉากความตายในเรื่องก็โหดจัดเต็ม ดูแล้วรับรองว่าเสียวทุกวินาที มาดูกันว่าจะมีฉากหวาดเสียวอะไรกันบ้างและแต่ละภาคจะมาในรูปแบบยังไงพร้อมสรุปเรื่องราวและรีวิวของทุกภาค
ก่อนอื่นมาเริ่มกันที่ภาคแรกกันก่อนเลยดีกว่า โดยแต่ละภาคใช้ชื่อเรื่องภาษาไทยต่างกัน
1. Final Destination 1 (2000) เจ็ดต้องตาย โกงความตาย
เป็นภาพยนตร์ประเภทสยองขวัญที่จัดทำโดยค่ายภาพยนตร์ New Line Cinema
รูปที่ 1 Final Destination 1 (2000) เจ็ดต้องตาย โกงความตาย
เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่กำลังขึ้นเครื่องบินเที่ยวบิน 180 เพื่อเดินทางไปปารีสเข้าโรงเรียนไฮสคูลพร้อมกับเพื่อน ๆ ซึ่งระหว่างที่เขากำลังขึ้นเครื่องบิน เขารู้สึกถึงญาณบางอย่างตลอดเวลาและเมื่อนั่งเครื่องบินขณะรอเครื่องออกก็ได้เห็นภาพเครื่องบินระเบิด ผู้โดยสารทุกคนทยอยตายไปทีละคน ดังนั้นพอเขารู้สึกตัวจึงรีบตะโกนให้ทุกคนออกจากเครื่องบินโดยเร็ว แต่ไม่มีใครเชื่อเขา เขาจึงถูกไล่ให้ลงจากเครื่องบินพร้อมกับคนอื่น ๆ อีกเจ็ดคน และเจ็ดคนนี้คือที่มาของคำว่า เจ็ดต้องตาย โกงความตาย โดยพวกเขาทั้งเจ็ดคนได้พ้นจากความตายมาได้ แต่แล้วก็ไม่อาจหนีความตายพ้น ซึ่งเป็นไปตามชื่อเรื่องนั้นเอง หลังจากที่พวกเขาลงจากเครื่องไม่นาน พอเครื่องทะยานสู่ท้องฟ้าก็ได้ระเบิดทันที ซึ่งตรงตามที่เขาได้สัมผัสถึงในตอนแรก แต่ทว่าการเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าของเขาไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ยังคงเกิดขึ้นอีก
2. FINAL DESTINATION 2 (2003) โกงความตาย แล้วต้องตาย 2
3. FINAL DESTINATION 3 (2006) โกงความตาย เย้ยความตาย 3
รูปที่ 11 FINAL DESTINATION 3 (2006) โกงความตาย เย้ยความตาย 3
เรื่องราวที่เกิดขึ้น 6 ปี หลังเหตุการณ์ในภาคแรก เมื่อนักศึกษาสาวคนหนึ่งและเพื่อนของเธอได้ไปเที่ยวสวนสนุกแห่งหนึ่ง โดยขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา The Devil's Flight ซึ่งตลอดทางที่เธอกำลังจะขึ้นรถไฟเหาะก็รู้สึกถึงลางไม่ดีหลายอย่าง และในที่สุดลางที่เธอสัมผัสได้ ก็กลายเป็นเหตุการณ์สุดสยอง เมื่อรถไฟเหาะเกิดฉีกขาดออกจากกัน หลังจากนั้นเธอจึงพยายามหาวิธีช่วยคนอื่น ๆ ที่เธอเห็นในนิมิต
รูปที่ 13 ฉากถูกอบในห้องซาวน่า
รูปที่ 15 โดนเสาธงเสียบทะลุ
รูปที่ 16 โดนของหล่นทับ
คะแนน 7/10
ตัวอย่าง
4. THE FINAL DESTINATION 4 (2009) โกงตาย ทะลุตาย 4
เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติเรื่อง American 3D ที่เขียนโดย
Eric Bress และกำกับโดย David R. Ellis เป็นภาคที่สี่ในซีรีย์ภาพยนตร์
Final Destination และภาคต่อของสแตนอโลนที่สองหลังจาก Final Destination 3 นำแสดงโดย Bobby Campo, Shantel VanSanten และ Mykelti Williamson
รูปที่ 17 THE FINAL DESTINATION 4 (2009) โกงตาย ทะลุตาย 4
เรื่องราวของชายคนหนึ่งและเพื่อนของเขาที่ได้ไปดูการแข่งรถ ณ สนามแข่ง ในวันหยุด แต่แล้วเขาก็รู้สึกถึงบางสิ่งแปลก ๆ ที่นี่ ไม่นานก็ได้เกิดเหตุขึ้น เมื่อรถแข่งที่วิ่งมาด้วยความเร็ว 180 ไมล์ต่อชั่วโมงได้พุ่งเข้าหากลุ่มพวกเขาและผู้ชม ทุกคนต่างพากันหนีตาย และเมื่อเขาได้สติก็ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เห็นก่อนหน้าให้เพื่อนฟังและรีบให้ทุกคนออกไปจากที่นี่ และเมื่อเขากับเพื่อนและคนอีกกลุ่มหนึ่งได้ออกตามเขามา ก็ได้เกิดเรื่องขึ้นทันที จากนั้นคนที่รอดจากเหตุการณ์นั้นก็ค่อย ๆ ทยอยตายทีละคน เขาจึงกลับมายังที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อย้อนดูภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ ให้ทันก่อนความตายจะมาเยือน
รูปที่ 18 ฉากรถแข่งพุ่งเข้าหาผู้ชม
เปลี่ยนนักแสดงชุดใหม่ไปเรื่อย ๆ ยังคงดำเนินเรื่องเร็ว โดยเปิดเรื่องมาก็เข้าเรื่องเลยด้วยฉากการแข่งรถ ซึ่งเป็นจุดเด่นของภาคนี้ ฉากตายยังคงโหดเหมือนเดิม โดยภาคนี้จะเป็นการมองเห็นภาพวิธีการตายของแต่ละคน คล้าย ๆ กับภาคสาม ซึ่งจะเป็นการทิ้งปริศนาแอบแฝงไว้ในภาพ การใช้เอฟเฟกต์ภาพที่เห็นทำได้ดี น่าสนใจ และมาแนวเดียวกันกับภาคก่อน ๆ ค่อย ๆ ฉายการตายของแต่ละคนและชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครหลักในช่วงท้าย ๆ เรื่องเช่นเดิม
รูปที่ 19 ฉากในเครื่องล้างรถอัตโนมัติ
คะแนน 7/10
ตัวอย่าง
5. FINAL DESTINATION 5 (2011) โกงตายสุดขีด 5
เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติ 3 มิติของอเมริกาที่กำกับโดย Steven Quale และเขียนบทโดย Eric Heisserer
เป็นภาคที่ห้าในภาพยนตร์ชุด Final Destination นำแสดงโดย
Nicholas D'Agosto, Emma Bell, Miles Fisher, Arlen Escarpeta, David
Koechner และ Tony Todd
เรื่องราวของชายคนหนึ่งพร้อมกับเพื่อนร่วมงานที่ได้นั่งรถบัสเพื่อเดินทางไปพักผ่อนกับบริษัท ซึ่งในระหว่างที่กำลังจะข้ามสะพานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้น รถได้หยุดลง พร้อมกับลมที่พัดแรงอย่างกระทันหัน พื้นสะพานที่เริ่มแตกเป็นรอยร้าว จนทำให้สะพานเริ่มขาดออกจากกันและเริ่มเสียหาย ทุกคนรีบวิ่งหนีออกไปจากสะพานให้เร็วที่สุด จากนั้นเขาก็ได้สติ พร้อมกับตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก จึงได้รีบบอกให้ทุกคนหนีไปจากที่นี่ และไม่นานเหตุการณ์ที่เขาได้เห็นก็เกิดขึ้นจริงต่อหน้าต่อตาของเขา
รูปที่ 24 ฉากสะพานถล่ม
ช่วงแรกจะเป็นการปูเรื่องราวของตัวละครแต่ละคน ยังไม่ได้ฉายฉากเด่นของเรื่องอย่างภาคก่อน ๆ คือ ฉากบนสะพาน แต่ก็ยังคงมีส่วนเชื่อมโยงกับเที่ยวบิน 180 โดยภาคนี้จะเป็นการมองเห็นภาพล่วงหน้าคล้าย ๆ สองภาคแรก และตอนจบจะวกกลับมาที่ฉากบนเครื่องบินซึ่งเป็นฉากเปิดเรื่องในภาคแรกอีกครั้ง มีตัวละครจากภาคแรกเข้ามาร่วมด้วย ฉากตายยังคงโหดเหมือนเดิม
รูปที่ 26 ฉากเลเซอร์เผาดวงตา
คะแนน 7/10
ตัวอย่าง
6. Final Destination Bloodlines (2025) ไฟนอลเดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย
เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติอเมริกันที่กำกับโดย Zach Lipovsky และ Adam Stein เขียนบทโดย Guy Busick และ Lori Evans Taylor อิงจากเรื่องที่พวกเขาพัฒนาและ Jon Watts โดยเป็นภาคที่หกในซีรีส์ภาพยนตร์ Final Destination หลังจาก Final Destination 5 (2011) นำแสดงโดย Kaitlyn Santa Juana ร่วมด้วย Teo Briones, Richard Harmon, Owen Patrick Joyner, Anna Lore, Brec Bassinger และ Tony Todd
หลังจากความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ของ Final Destination 5 ภาพยนตร์เรื่องใหม่ได้เริ่มพัฒนา ซึ่งถูกอธิบายว่าเป็น "การสร้างจินตนาการใหม่" ของแฟรนไชส์นี้ ในเดือนมีนาคม 2020 ผู้ผลิตซีรีส์ Craig Perry กล่าวว่า ภาพยนตร์จะตั้งอยู่ "ในโลกของผู้ตอบสนองแรก" และในเดือนตุลาคมของปีนั้น ผู้สร้างซีรีส์ Jeffrey Reddick ยืนยันว่าเป็นภาพยนตร์ที่หกในแฟรนไชส์นี้ ในเดือนมกราคม 2022 ภาพยนตร์ถูกวางแผนให้เปิดตัวบนบริการสตรีมมิง HBO Max โดยมี Lipovsky และ Stein เป็นผู้กำกับ และ Busick เข้าร่วมกับ Taylor ในฐานะผู้เขียนร่วมสำหรับภาพยนตร์นี้ ในเดือนมีนาคม 2024 Warner Bros. Pictures ได้ประกาศว่าภาพยนตร์จะได้รับการเปิดตัวในโรงภาพยนตร์แทน การถ่ายทำเกิดขึ้นที่แวนคูเวอร์ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2024 หลังจากมีความล่าช้าเนื่องจากการนัดหยุดงานของ SAG-AFTRA
Final Destination Bloodlines ถูกเผยแพร่ในสหรัฐอเมริกาโดย Warner Bros. Pictures เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2025
ความตายไม่ชอบให้ใครมาขัดขวางและมันจะฆ่าทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อถึงคราวตาย ใครก็ไม่อาจหนีความตายพ้น
เรื่องราวของ สเตฟานี (สเตฟ) ที่ได้เห็นเหตุการณ์การตายของ ไอริส ยายของเธอเมื่อห้าสิบปีที่แล้วและทุกครั้งที่หลับตามักจะฝันร้ายถึงเหตุการณ์นั้นอยู่ตลอด เธอจึงต้องการไปหาไอริส แต่คนอื่นกลับบอกไม่ให้เข้าใกล้ เนื่องจากเป็นคนป่วยอันตราย ซึ่งเมื่อเธอได้เจอกับไอริสก็ได้รู้ว่าเหตุการณ์ที่เธอเห็นเป็นอนาคตของไอริสและไอริสกำลังพยายามหลีกหนีจากความตาย แต่ตอนนี้ความตายกำลังมาเยือนครอบครัวของเธอ
เปิดเรื่องฉายถึงยายของตัวละครหลักสมัยสาว ๆ ที่ถูกแฟนพามาเซอร์ไพส์ ซึ่งเปิดเรื่องมาก็เริ่มฉายถึงเหตุการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจและชวนหวาดระแวงเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นไหม ดูแล้วชวนลุ้นไปกับตัวละครด้วย โดยจะค่อย ๆ ฉายถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นลางบอกเหตุตามด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่นำไปสู่เรื่องเลวร้ายขึ้น ซึ่งสิ่งเดียวสามารถเกิดเหตุได้เป็นทอด ๆ ซึ่งชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครดี โดยเมื่อถึงคราวยายตายก็ได้ตัดมาที่ตัวละครหลักที่ได้เห็นภาพเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดและมักจะฉายถึงตัวละครหลักที่เห็นภาพเหตุการณ์เดิมตลอด จากนั้นก็ค่อย ๆ ฉายถึงตัวละครอื่น ๆ ในภาคนี้ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับตัวละครภาคก่อน ๆ และได้พูดถึงไอริส รวมทั้งวิธีการตายเล็กน้อย ก่อนฉายถึงตัวละครที่เดินทางไปหาไอริส ซึ่งช่วงนี้ก็ได้อธิบายเรื่องราวเพิ่มเติม พร้อมฉายถึงภาพให้เห็น ซึ่งเป็นช่วงที่ไอริสรู้เหตุการณ์แล้วและกำลังหาวิธีหยุด พร้อมทั้งให้ตัวละครหลักเอาหนังสือไปด้วย ซึ่งจำเป็นต้องรู้เพื่อปกป้องครอบครัว โดยช่วงกลางเรื่องจะเริ่มฉายถึงเหยื่อที่เจอกับความตายทีละคน ซึ่งความตายเหมือนอยู่ใกล้ตัวสามารถเกิดขึ้นได้ถ้าประมาทและไม่ระวัง ซึ่งดูแล้วก็ชวนหวาดระแวงไปหมด โดยจะชวนลุ้นว่าใครจะเป็นรายต่อไป พร้อมกับตัวละครหลักที่เปิดหนังสือ ซึ่งในหนังสือแสดงถึงภาพสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ของไอริส รวมทั้งเหยื่อที่ตายตามลำดับ โดยสื่อถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งก็ชวนติดตามว่าตัวละครจะแก้ปัญหายังไง แต่การแก้ปัญหาไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ เพียงแค่ทำตามคำแนะนำในหนังสือเท่านั้น โดยเหยื่อรายต่อไปหนังจะเน้นฉายไปที่คนนั้นเป็นหลัก จึงทำให้เดาได้ง่ายว่าเป็นใครและฉากตัวละครตายยังน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับภาคอื่น แต่ก็ให้อารมณ์เหมือนกับภาคก่อน ๆ และฉากตายก็ยังคงความโหดเหมือนเดิม ซึ่งจบทิ้งท้ายเหมือนมีต่อ
คะแนนส่วนตัว 7/10
ตัวอย่าง
จะเห็นได้ว่าแต่ละภาคการตายของแต่ละคนล้วนเกิดจากความประมาทและการมักง่ายของตัวเอง แต่บางครั้งก็อาจเกิดจากดวงของเราที่ถึงคาดต้องตายจริง ๆ ก็เป็นได้ ถึงแม้จะโกงความตายไปได้ แต่ก็หนีความตายไปไม่ได้
ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Zide/Perry Productions รูปที่ 1 / รูปที่ 2 / รูปที่ 3 / รูปที่ 4 / รูปที่ 5 / รูปที่ 6 / รูปที่ 7 / รูปที่ 8 / รูปที่ 9 / รูปที่ 10 / รูปที่ 11 / รูปที่ 12 / รูปที่ 13 / รูปที่ 14 / รูปที่ 15 / รูปที่ 16 / รูปที่ 17 / รูปที่ 18 / รูปที่ 19 / รูปที่ 20 / รูปที่ 21 / รูปที่ 22 / รูปที่ 24 / รูปที่ 25 / รูปที่ 26 / รูปที่ 27 / รูปที่ 28
ขอบคุณภาพจาก Facebook Final Destination (Movie) รูปที่ 23
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น