วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567

รีวิวหนัง The First Omen (2024) กำเนิดอาถรรพ์หมายเลข 6

 



              The First Omen (2024) กำเนิดอาถรรพ์หมายเลข 6  เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติของอเมริกาที่กํากับโดย Arkasha Stevenson ซึ่งร่วมเขียนบทภาพยนตร์กับ Tim Smith และ Keith Thomas จากเรื่องราวโดย Ben Jacoby เป็นภาคต่อของ The Omen (1976) เป็นภาพยนตร์เรื่องที่หกในแฟรนไชส์ The Omen นําแสดงโดย Nell Tiger Free, Tawfeek Barhom, Sônia Braga, Ralph Ineson และ Bill Nighy มีกําหนดเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาโดย 20th Century Studios ในวันที่ 5 เมษายน 2024

"จุดกำเนิดของซาตาน ที่มาจากเบื้องหลังตำหนักของพระเจ้า"

              เรื่องราวของ มาร์กาเร็ต ไดโน (Nell Tiger Free)​ เด็กสาวผู้มีจิตศรัทธาที่ตั้งใจจะบวชชีเพื่อรับใช้ศาสนาคริสต์ที่โบสถ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ระหว่างที่รอที่จะถึงวันทำพิธีบวช เธอได้ค้นพบเรื่องราวแปลกๆ ในโบสถ์ที่ดูเหมือนจะเป็นการทดลองทำอะไรบางอย่างที่ขัดศีลธรรม เธอจึงพยายามจะหาหลักฐานเพื่อเปิดโปงสิ่งที่ไม่ดีของโบสถ์ แต่ว่าเมื่อเธอยิ่งสืบยิ่งทำให้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องผิดศีลธรรมอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับการให้กำเนิดปีศาจสู่โลกมนุษย์ด้วย..!

              ช่วงนี้กระแสหนังสยองขวัญที่ทีพล็อตเกี่ยวกับแม่ชีกำลังติดเทรนด์ไม่เว้นแม้แต่เรื่องนี้ นี่เป็นเรื่องราวภาคกำเนิดเด็กปีศาจใน The omen ซึ่งหนังจะพาเราไปรับชมเรื่องราวต้นกำเนิด และที่มาที่ไปของเด็กปีศาจในร่างมนุษย์ ถ้าใครเคยดูภาคก่อนหน้าซึ่งเป็นเรื่องราวหลังจากเรื่องนี้ ก็จะเข้าใจที่มาที่ไปได้ ส่วนใครที่ยังไม่เคยดูก็สามารถดูเรื่องนี้แล้วไปหาชมเรื่องราวต่อจากเรื่องนี้ได้เลย

              นอกจากการเล่าเรื่องต้นกำเนิดของเด็กปีศาจใน The omen แล้ว ในแง่ของความลุ้นระทึก และสยองขวัญ ต้องถือว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้หลอน และลุ้นระทึกดี หนังมีกลิ่นอายของหนังผีแนว The nun ผสมกับฉากลุ้นระทึกแนว Final destination ที่ใส่อุปกรณ์ประกอบฉากรอบตัวให้คนดูหวาดเสียว แม้ฉากตื่นเต้นลุ้นระทึกที่เป็นจุดขายของหนังจะทำออกมาได้ดีตามโจทย์ แต่เสียดายที่มีไม่เยอะเท่าที่ควร โดยเฉพาะช่วงกลางเรื่องที่จะเน้นคุยกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ช่วงต้นเรื่องและช่วงไคลแมกซ์มีฉากลุ้นระทึกออกมาพอสมควรให้คนดูได้หวาดเสียวกันไป

              สุดท้ายหนังทิ้งท้ายฉากจบแบบที่อาจจะมีการสร้างต่อ เพราะบางประเด็นหนังยังไม่สรุปมีปมทิ้งท้ายไว้บ้าง ซึ่งเป็นไปได้ว่าภาพยนตร์ชุดนี้อาจมีภาคต่อไปอีก ซึ่งก็ถือว่ามีความน่าสนใจดี

            สุดท้ายขอแนะนำหนังเรื่องนี้กับคอหนังลุ้นระทึกสยองขวัญ และแฟนๆ The omen ที่ควรไปตามเก็บรายละเอียดที่มาที่ไปพร้อมทั้งลุ้นไปกับตัวหนังที่เมื่อคุณดูจบแล้วอาจจะต้องไปหา The omen ภาคก่อนๆ มาดูเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำกัน​เลย

             ปล. ในรอบสื่อมีแสงสีพิเศษประกอบนอกจากในหนังเพิ่มอรรถรสในการชมด้วย ไอเดียเจ๋งดีครับ

คะแนนส่วนตัว 7/10

รีวิวโดย A.L. Lucky

ตัวอย่าง


ขอบคุณภาพจาก Phantom Four รูปหน้าปกที่ 1

ขอบคุณภาพจาก 20th Century Studios รูปหน้าปกที่ 2

ไม่มีความคิดเห็น:

ป้ายกำกับ