วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566

รีวิวหนัง The Boogeyman (2023) เดอะ บูกี้แมน




             The Boogeyman (2023) เดอะ บูกี้แมน เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติสัญชาติอเมริกันที่กำกับโดย Rob Savage จากบทภาพยนตร์โดย Scott Beck, Bryan Woods และ Mark Heyman สร้างจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันในปี 1973 โดย Stephen King นำแสดงโดย Sophie Thatcher, Chris Messina, Vivien Lyra Blair และ David Dastmalchian การดัดแปลงเรื่องสั้นของKingได้รับการประกาศครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2018 โดยมี Beck และ Woods เขียนบทภาพยนตร์ แต่โปรเจ็กต์ถูกยกเลิกในปี 2019 เนื่องจากการเข้าซื้อกิจการของฟ็อกซ์ของดิสนีย์ อย่างไรก็ตาม ได้รับการฟื้นฟูในเดือนพฤศจิกายน 2021 โดย Savage เป็นผู้กำกับโปรเจ็กต์นี้ Thatcher, Messina, Dastmalchian และนักแสดงคนอื่น ๆ เซ็นสัญญาเมื่อต้นปี 2022 การถ่ายภาพหลักเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ในเมืองนิวออร์ลีนส์ เดิมทีมีแผนจะออกฉายทางบริการสตรีมมิ่ง Hulu ในที่สุดดิสนีย์ก็เลือกฉายในโรงภาพยนตร์ก่อนหลังจากผลการทดสอบออกมาในเชิงบวก ซึ่งออกฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2023 โดย 20th Century Studios 

               เดอะ บูกี้แมน ปีศาจเงาที่จะเอาชีวิตลูกตอนเผลอ โดยจะชอบแอบอยู่ในความมืดติดตามคนที่อ่อนแอจนกว่าจะตาย

              เรื่องราวของ วิล ฮาร์เปอร์ นักบำบัด ที่ต้องเลี้ยงดู เซดี้ และ ซอว์เยอร์ ลูกสาวสองคนตามลำพัง หลังจากเสียภรรยาไปในอุบัติเหตุรถชน ต่อมา เลสเตอร์ บิลลิงส์ ที่ฆ่าลูกตัวเองทีละคน โดยลูกสาวคนแรกตายเพราะโรคไหลตายได้ไม่ถึงปี ลูกอีกสองคนก็ตายตามไป ได้มาหาเขา เพื่อขอความช่วยเหลือ และไม่นานเลสเตอร์ก็ตัดสินใจแขวนคอตายในบ้านเขา หลังจากนั้นลูก ๆ ของเขาก็เริ่มเห็นบางอย่างในความมืด จนทำให้กลัวความมืดมาตลอด ซดี้จึงพยายามค้นหาว่าสิ่งที่ซอว์เยอร์เห็นคืออะไรกันแน่ มันคือเรื่องจริงหรือคิดไปเอง

              เปิดเรื่องด้วยการค่อย ๆ ฉายถึงตัวละครหลักแต่ละคน พร้อมกับปูเรื่องราวเล็กน้อย ก่อนฉายถึงตัวละครลึกลับที่ค่อย ๆ พูดถึงต้นเหตุของการตาย และเริ่มฉายถึงบางอย่าง ซึ่งในระหว่างดำเนินเรื่องก็จะสอดแทรกความสัมพันธ์ครอบครัวและฉากดราม่าเล็กน้อย โดยฉากหลอกหลอนจะเน้นบรรยากาศมืด ๆ ตลอดทั้งเรื่องและชอบเน้นจังหวะตุ้งแช่ ค่อย ๆ ชวนให้ลุ้นว่าจะเจออะไร ซึ่งจะถ่ายให้เห็นในมุมมืด จึงมองไม่ค่อยชัดว่าคืออะไร แต่จะเห็นชัดเจนขึ้นในช่วงท้ายเรื่อง แถมบางช่วงมืดมากจนมองไม่เห็นอะไรเลย โดยช่วงกลางเรื่องจะเน้นไปที่การสืบสวนเรื่องราวจากตัวละครลึกลับและสิ่งที่เห็น พร้อมทั้งค่อย ๆ เปิดเผยเรื่องราวของปีศาจ ซึ่งดูจนจบรู้สึกว่าฉากลุ้นน้อยไปหน่อยและหนังดูสั้นไป

คะแนนส่วนตัว 4.5/10

ตัวอย่าง 

 
ขอบคุณภาพจาก 20th Century Studios รูปหน้าปกที่ 1

ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต 20th Century Studios รูปหน้าปกที่ 2รูปหน้าปกที่ 3

ไม่มีความคิดเห็น:

ป้ายกำกับ