วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2566

รีวิวหนัง Winnie the Pooh Blood and Honey (2023) โหด เห็น หมี

 


               Winnie the Pooh Blood and Honey (2023) โหด เห็น หมี เป็นภาพยนตร์แนวเชือดเฉือนอิสระของอังกฤษที่เขียนบท กำกับและอำนวยการสร้างโดย Rhys Frake-Waterfield ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องสยองขวัญของหนังสือ Winnie-the-Pooh ของ A. A. Milne และ E. H. Shepard นำแสดงโดย Craig David Dowsett และ Chris Cordell ร่วมกับ Amber Doig-Thorne, Nikolai Leon, Maria Taylor, Natasha Rose Mills และ Danielle Ronald 

              โดยได้รับการประกาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2022 ซึ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางเนื่องจากเนื้อหาเกี่ยวข้องกับตัวละครที่สร้างชื่อเสียงในฐานะ "ไอคอนวัยเด็กอันเป็นที่รัก" ผลิตโดย Jagged Edge Productions ร่วมกับ ITN Studios และเริ่มพัฒนาหลังจากหนังสือ Winnie-the-Pooh ในปี 1926 การถ่ายทำใช้เวลา 10 วัน เกิดขึ้นใน Ashdown Forest ของ East Sussex ประเทศอังกฤษ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Hundred Acre Wood ซึ่งเป็นฉากของเรื่องราว

               เดิมทีมีกำหนดจัดขึ้นสำหรับกิจกรรมหนึ่งคืนทั่วประเทศ ความนิยมในโลกออนไลน์ที่พุ่งสูงขึ้นได้ขยายไปสู่การฉายละครครั้งใหญ่ทั่วโลก ฉายรอบปฐมทัศน์ในเม็กซิโกเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2023 และเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2023 และในสหราชอาณาจักรในวันที่ 10 มีนาคม 2023

               เรื่องราวของ มาเรีย ที่ได้รับคำแนะนำจากนักบำบัดให้หาที่เงียบ ๆ ที่รู้สึกปลอดภัย เพื่อพักสักหนึ่งสัปดาห์ เพื่อหลีกหนีโลกที่วุ่นวาย เธอจึงชวนเพื่อน ๆ อย่าง ทีน่า, โซอี้, ลาร่า, อลิซ และ เจส มาพักที่บ้านในป่าหนึ่งร้อยเอเคอร์ สถานที่ที่ คริส (คริสโตเฟอร์ โรบิน) เคยเจอสัตว์ลูกผสมอย่าง อาว์ล แรบบิท, อียอร์ พิกเล็ท และ วินนี่ เดอะ พูห์ ซึ่งตอนนั้นพวกมันเป็นเพื่อนกับเขา แต่ตอนนี้พวกมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เมื่อพวกมันกลายเป็นสัตว์ดุร้ายและเกลียดชังทุกอย่างเกี่ยวกับมนุษย์ ซึ่งตอนนี้พวกเธอกำลังตกเป็นเหยื่อของมัน

              เปิดเรื่องด้วยการเกริ่นนำเรื่องราว พร้อมกับฉายให้เห็นภาพ ลึกเข้าไปในป่าหนึ่งร้อยเอเคอร์ คริสโตเฟอร์ โรบิน บังเอิญมาเจอสัตว์หนุ่มสาวแปลก ๆ พวกมันเป็นสัตว์ลูกผสม ที่แนะนำตัวเองว่า อาว์ล แรบบิท, อียอร์ พิกเล็ท และ วินนี่ เดอะ พูห์ ด้วยความไร้เดียงสาเขาจึงมองข้ามความอันตรายและเป็นเพื่อนกับพวกมัน โดยเขาเอาอาหารมาให้พวกมันกินและยิ่งวันเวลาผ่านไปก็เริ่มสนิทกัน แต่แล้วเมื่อเขาโตขึ้นก็ได้ตัดสินใจทิ้งเพื่อน ๆ ไปเรียนหมอ ทำให้พวกมันต้องกลับมาดูแลตัวเองอีกครั้ง จนฤดูหนาวมาถึง ค่ำคืนที่หนาวเหน็บเจียนตาย ดินแดนที่แห้งแล้งปราศจากอาหาร คืนแห่งความเป็นความตาย ขณะพวกมันกำลังอดตาย พูห์ ตัดสินใจว่าทั้งกลุ่มต้องกินหนึ่งในเพื่อนรัก เพื่อเอาชีวิตรอด โดยพวกมันเลือกอียอร์ ความซอกซ้ำนี้ทำให้จิตใจของทั้งกลุ่มผิดปกติ กลายเป็นสัตว์ดุร้ายและเกลียดชังทุกอย่างเกี่ยวกับมนุษย์ โดยเฉพาะคริสโตเฟอร์ โรบินที่ทอดทิ้งพวกมัน พวกมันสัญญาว่าจะไม่ยอมรับความเป็นมนุษย์และกลับสู่รากเหง้าความเป็นสัตว์ ซึ่งช่วงเปิดเรื่องเป็นการปูที่มาที่ไปของฆาตกร จากนั้นก็ตัดมาที่ช่วงห้าปีต่อมาฉายถึงตัวละครคริสโตเฟอร์ โรบินในตอนโตที่เข้ามาในป่าหนึ่งร้อยเอเคอร์ โดยระหว่างที่ตัวละครกำลังตามหาเพื่อนก็ค่อย ๆ ฉายถึงร่องรอยสิ่งของต่าง ๆ จนเริ่มฉายถึงเพื่อนที่ตัวละครตามหา ซึ่งฆาตกรทำได้ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ โดยเรื่องราวของฆาตกรก็เช่นกัน ซึ่งเวลาฉายฆาตกรจะชอบฉายตอนมืด ๆ เหมือนต้องการปกปิดความไม่สมจริงที่ดูแล้วเหมือนคนสวมหน้ากากมากกว่า จากนั้นก็ตัดเข้าเรื่องด้วยการเกริ่นนำเรื่องราว มีการหายตัวไปในป่าอีกครั้ง โดยสภาพศพถูกตัดเป็นชิ้น ๆ ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นฝีมือของบิ๊กฟุตแห่งป่าแอชดาวน์ จากนั้นก็ตัดมาฉายถึงตัวละครหลักก่อนที่จะเดินทางเข้าป่า ซึ่งเมื่อมาถึงก็เริ่มฉายถึงฆาตกรที่ตามไล่ฆ่าเหยื่อ ซึ่งฉากฆ่าโหดดี ชวนลุ้นบ้าง แต่ก็มาแนวเดิม ๆ เป็นหนังไล่เชือดที่ไม่ได้แปลกใหม่เท่าไหร่ พอเดาเรื่องได้และดูแล้วขัดใจตัวละครไปหน่อย ซึ่งช่วงท้ายเรื่องฆาตกรก็ดูเวอร์ไป

คะแนนส่วนตัว 4/10

ตัวอย่าง


ขอบคุณภาพจาก ITN Studios รูปหน้าปกที่ 1

ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต ITN Studios รูปหน้าปกที่ 2รูปหน้าปกที่ 3

ไม่มีความคิดเห็น:

ป้ายกำกับ