รีวิวหนัง Halloween Ends (2022) ปิดฉากฮาโลวีน

 

              Halloween Ends (2022) ปิดฉากฮาโลวีน เป็นภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์อเมริกันที่กำกับโดย David Gordon Green และเขียนโดย Green, Danny McBride, Paul Brad Logan และ Chris Bernier เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Halloween Kills ปี 2021 ซึ่งเป็นภาคที่สิบสามในแฟรนไชส์ฮัลโลวีน และภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในไตรภาค "H40" ที่เริ่มด้วยภาพยนตร์ปี 2018 ซึ่งยังคงดำเนินเรื่องราวของภาพยนตร์ปี 1978 ต่อ (โดยไม่คำนึงถึงเรื่องที่สอง สี่ และห้า และภาพยนตร์เรื่องที่หก, H20 duology, และ remake duology โดย Rob Zombie) ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Jamie Lee Curtis, James Jude Courtney, Andi Matichak, Will Patton และ Kyle Richards ที่กลับมารับบทเดิมจากภาคที่แล้ว ซึ่งเป็นการแสดงครั้งสุดท้ายของ Curtis ในฐานะ Laurie Strode และ Nick Castle ในฐานะ Michael Myers ก่อนการเปิดตัวของฮัลโลวีนในปี 2018 McBride ยืนยันว่าเขาและ Green ตั้งใจจะนำเสนอภาพยนตร์สองเรื่องที่จะถ่ายทำแบบย้อนหลัง แต่ตัดสินใจไม่ทำเพื่อรอดูปฏิกิริยาของภาพยนตร์เรื่องแรก หลังจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องแรกในเดือนกรกฎาคม 2019 ได้มีการประกาศชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมกับ Halloween Kills โดยฉายรอบปฐมทัศน์ที่ Beyond Fest ในลอสแองเจลิส เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2022 และมีกำหนดเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 14 ตุลาคม 2022 โดย Universal Pictures นอกจากนี้ยังจะสตรีมพร้อมกันในระดับ Peacock แบบชำระเงินเป็นเวลา 60 วัน

"สิ่งที่ลุ้นเหมือนทุกๆ ภาคคือ ไมเคิลภาคนี้จะตายมั้ย"

              หนังภาคต่อและน่าจะเป็นภาคสุดท้ายของ ไมเคิล ไมเยอร์ส ฆาตกรโรคจิต และ ลอรี่ สโตรด คู่ปรับที่ทั้งหนี ทั้งสู้ มาตลอดทุกภาค ซึ่งในฮาโลวีนปีนี้หวังว่าจะได้ปิดฉากตำนานความสยองที่มีมายาวนานสักทีนะ

               ภาคนี้จะปิดตำนานหรือไม่ ไมเคิลจะตายจริงหรือเปล่า อยากรู้คำตอบต้องไปดูในโรงเอาเองนะ ผมคงไม่บอกอะไรเพราะถือเป็นจุดขายที่คนดูต้องไปลุ้นหาคำตอบเอาเอง แต่จะขอรีวิวเกี่ยวกับเนื้อเรื่องละกัน ในภาคนี้ฉากโหด สยอง เลือดสาดยังคงมี แต่จะแตกต่างจากเดิม โดยที่เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นที่มาของความโหดอาจไม่ได้มาจากไมเคิลเพียงคนเดียว หนังสอดแทรกปมของตัวละครเก่าผ่านตัวละครอีกตัวโดยให้ข้อคิดว่าบางทีปีศาจที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นฆาตกรไล่ฆ่าคนไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่อาจเกิดจากคนธรรมดาหรือคนรอบข้างอย่างเรา ๆ ที่สร้างขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเสียดสีสังคมปัจจุบันไปในตัวด้วย ซึ่งทำให้ผมนึกไปถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกที่เกี่ยวกับการฆ่ากันโดยไม่มีเหตุผล เช่นเหตุการณ์ที่เกิดการกราดยิงกันบางทีปีศาจตัวนั้นที่ได้ชื่อว่าเป็นฆาตกรอาจมีปมอะไรในอดีตที่เกิดจากผู้คนรอบข้างก็เป็นได้ มาว่ากันในเรื่องฉากลุ้นระทึกก็ถือว่ามีพอสมควร และภาคนี้ดีอย่างตรงที่ไม่มีตัวละครโง่ ๆ ที่ทำให้ตัวเองต้องตายโดยไม่จำเป็นเหมือนภาคก่อน ๆ ยังไงก็แล้วแต่ภาคปิดตำนาน Halloween แฟน ๆ และคอหนังสยองขวัญก็ไม่ควรพลาดครับ

คะแนนส่วนตัว 4/5

รีวิวโดย A.L. Lucky

             เรื่องราวของ ลอรี่ สโตรด ที่ซื้อบ้านหลังใหม่อาศัยอยู่กับอัลลีสัน หลานสาวของเธอ โดยอัลลีสันได้รู้จักกับ คอรีย์และเริ่มมีความสัมพันธ์จนชอบพอกัน โดยวางแผนที่จะออกจากแฮดดอนฟิลด์เพราะความบอบช้ำในอดีตของคอรีย์ แต่ลอรีเริ่มสงสัยคอรีย์มากขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มเลียนแบบพฤติกรรมของ ไมเคิล ไมเยอร์ส จึงห้ามพวกเขาไปและแกล้งฆ่าตัวตาย เพื่อล่อเขาให้มาหาและได้พาไมเคิล ไมเยอร์สกลับมาหาเธออีกครั้ง 

             เปิดเรื่องด้วยการฉายถึงตัวละครที่ได้เผลอฆ่าเด็กโดยไม่ได้ตั้งใจในคืนวันฮัลโลวีนปี 2019 หลังจากถูกเด็กแกล้ง จากนั้นก็ตัดเข้าเรื่องในช่วงสามปีต่อมา เมืองแฮดดอนฟิลด์ รัฐอิลลินอยส์ ด้วยการเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ ของตัวละครหลักเกี่ยวกับไมเคิล ไมเยอร์ส ในภาคก่อนหน้าและเรื่องราวของตัวเองหลังจากนั้น ซึ่งดำเนินเรื่องต่อเนื่องจากภาคก่อน ยังคงใช้ดนตรีประกอบ ตัวละครหลักชุดเดิม แต่มีตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับตัวละครหลักและดูโดดเด่นในเรื่อง ซึ่งเน้นฉายเยอะพอสมควร โดยช่วงแรกจะฉายถึงตัวละครใหม่ที่ชอบโดนคนแกล้งล้อเลียนหลังจากได้ไปก่อเหตุฆาตกรรมไว้ในช่วงเปิดเรื่องแล้วทำให้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ไมเคิล ไมเยอร์ส ซึ่งกว่าจะฉายเรื่องราวส่วนนี้ไปจนฉายถึงไมเคิล ไมเยอร์ส ก็ค่อนข้างนานน่าเบื่อพอสมควร แถมไม่ค่อยได้เน้นไมเคิล ไมเยอร์สเท่าไหร่ จากนั้นก็เริ่มฉายถึงฆาตกรที่ลงมือฆ่าคน ซึ่งหนังก็ยังคงมาสไตล์เดิม ๆ ที่พอเดาเรื่องได้ตั้งแต่ต้นว่าจะมาในรูปแบบยังไง มีฉากโหดบ้างท้ายเรื่อง ซึ่งหนังดำเนินเรื่องได้ค่อนข้างน่าเบื่อ ขาดความลุ้นระทึกมากกว่าภาคก่อน ๆ และสนุกสู้ภาคก่อนไม่ได้

คะแนนส่วนตัว 4/10

รีวิวโดย 刘心爱 

ตัวอย่าง 

อ่านรีวิว Halloween Kills (2021) ฮาโลวีนสังหาร

ขอบคุณภาพจาก Facebook Halloween Movie รูปหน้าปกที่ 1 / รูปหน้าปกที่ 2