รีวิวหนัง The Hunger Games The Ballad of Songbirds & Snakes (2023) เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม

 

             The Hunger Games The Ballad of Songbirds & Snakes (2023) เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นดิสโทเปียอเมริกันที่กํากับโดย Francis Lawrence จากบทภาพยนตร์โดย Michael Lesslie และ Michael Arndt สร้างจากนวนิยายเรื่อง The Ballad of Songbirds and Snakes ในปี 2020 โดย Suzanne Collins ทําหน้าที่เป็นพรีเควลของ The Hunger Games (2012) และเป็นภาคที่ห้าในภาพยนตร์ซีรีส์ The Hunger Games นําแสดงโดย Tom Blyth, Rachel Zegler, Peter Dinklage, Jason Schwartzman, Hunter Schafer, Josh Andrés Rivera และ Viola Davis โดยเป็นช่วง 64 ปีก่อนเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องแรก เนื้อเรื่องเป็นไปตามเหตุการณ์ที่นํา Coriolanus Snow หนุ่มบนเส้นทางสู่การเป็นผู้นําเผด็จการของ Panem รวมถึงความสัมพันธ์ของเขากับบรรณาการ Lucy Gray Baird Hunger Games เขต 12 ระหว่าง Hunger Games ครั้งที่ 10

             โดยจัดฉายรอบปฐมทัศน์โลกที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2023 และออกฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 โดย Lionsgate Films 

"เรื่องราวก่อนที่สโนว์จะเข้าสู่ด้านมืด"

              เรื่องราวของ Hunger games ที่ย้อนกลับไปครั้งที่ 10 ซึ่งจะเล่าถึงคอริโอลานุส สโนว์ (ทอม บลายธ์) ในวัยหนุ่มที่จะต้องมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับ ลูซี่ เกรย์ แบร์ด (เรเชล เซกเลอร์) ในการแข่งขัน Hunger games เพื่อให้ลูซี่ชนะการแข่งขัน และสร้างผลงานให้ตัวเองได้มีตำแหน่งในแคปิตอล ซึ่งเขาจะโดนขัดขวางจาก สก้า ไฮบัตทอม (ปีเตอร์ ดิงก์เลจ) ผู้สร้าง Hunger games เพราะความไม่ลงรอยกัน ซึ่งสโนว์จำเป็นต้องไปขอความช่วยเหลือจาก ดร.โวลัมเนีย กาอูล (วิโอลา เดวิส) โดยการเขียนแผน Hunger games ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งเรื่องราวต่าง ๆ ที่สโนว์ได้พบเจอก็จะผลักดันให้เขาเป็นประธานาธิบดีในอนาคตต่อมา

             เป็นภาคต้นกำเนิดและจุดเปลี่ยนของ Hunger games ที่ส่งผลต่ออนาคต โดยทั้งหมดเกิดจากชายที่ชื่อสโนว์ ถ้าไม่มีเขา Hunger games อาจถูกยกเลิกก็ได้นะ

             นอกจากการเล่าถึงประวัติ Hunger games แล้วเรายังจะได้รู้จักกับประวัติสโนว์ ชายผู้ส่งผลต่อ Hunger games เป็นอย่างมาก ตัวหนังเล่าเรื่องเป็น 3 part คือการปูเรื่อง การเข้าสู่เกมส์ และเหตุการณ์หลังจบเกมส์ ซึ่งในส่วนของการเล่นเกมส์ ยังดูล้าหลัง และไม่น่าสนใจเท่ากับการเล่นเกมส์ในภาคอนาคต แต่หนังนำเสนอความบันเทิงในมุมอื่นเสริมเข้ามาแทน เช่น ประเด็นการเมืองของผู้คนในแคปิทอล การชิงดีชิงเด่น เพื่อตำแหน่ง และการต่อสู้ของสโนว์กับคนรอบข้าง ที่หล่อหลอมให้เขาเป็นอีกคนหนึ่งในอนาคต

              ดังนั้นในแง่ของความบันเทิงจากการแข่งเกมส์อาจดูดร็อปไปแต่ถูกชดเชยในประเด็นอื่นที่หนังเล่าขึ้นมาแทน ก็ถือว่าไม่จำเจดี

             เสียงเพลงเพราะๆ จากเรเชล ผู้รับบทลูซี่ ก็ทำให้หนังดูดีและมีอะไรขึ้นมา และมีส่วนกับการขับเคลื่อนของหนังด้วย

             ยังไงก็แล้วแต่ภาพรวมเป็นหนังที่ดูสนุก คอหนังแนวผจญภัย ชิงไหวชิงพริบ และแฟน ๆ Hunger games ไม่ควรพลาดครับ

คะแนนส่วนตัว 4/5

รีวิวโดย A.L. Lucky

             เรื่องราวของ คอริโอลานุส สโนว์ หนึ่งในนักเรียนยี่สิบสี่คนที่ได้รับเลือกให้เป็นพี่เลี้ยงบรรณาการ ในการแข่งขันเกมล่าเกมครั้งที่ 10 โดยเขาได้เป็นพี่เลี้ยงให้กับ ลูซี่ เกรย์ แบร์ด คัฟวีเขต 12 ซึ่งถ้าบรรณาการคนไหนชนะพี่เลี้ยงก็จะได้รับรางวัลด้วย ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไปได้ด้วยดีจนเกิดเป็นความรักต่อกันและเขาได้ช่วยเธอจนเธอได้รับชัยชนะ แต่แล้วไม่นานเขาก็ถูกจับได้ว่าได้โกงเกม ทำให้ถูกย้ายไปเป็นผู้พิทักษ์นอกเขต ซึ่งในระหว่างนี้ก็ได้เจอกับลูซี่ เกรย์ แบร์ดที่นั่นด้วยและพากันหนีออกมา จนในภายหลังเขาได้เป็นผู้ที่มีอำนาจในพาเน็ม

            เปิดเรื่องด้วยการฉายถึงตัวละครหลักในวัยเด็กก่อนที่จะตัดมาฉายตอนโต ซึ่งภาคนี้เป็นภาคห้าก็จริง แต่เหมือนเป็นภาคต้นกำเนิดของเกมล่าเกมที่นำไปสู่ภาคต่อและเรื่องราวของตัวละครหลักจากหน้ามือเป็นหลังมือ ที่มีอธิบายถึงสาเหตุที่มาที่ไปและความหมายของเกมล่าชีวิต จึงไม่ค่อยมีฉากลุ้นระทึกมากนัก รวมทั้งช่วงเล่นเกมก็ดูน้อยเกินไปและไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ บางจุดค่อนข้างผิดหวังไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ โดยจะสอดแทรกฉากลุ้นระทึกเป็นช่วง ๆ จึงดูแล้วค่อนข้างน่าเบื่อไปบ้าง บวกกับเป็นหนังที่ผสมผสานสงครามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ฉากสถานที่ในหนังดูสวยงามดี ซึ่งหนังจะดำเนินเรื่องไปทีละบท โดยจะมีทั้งหมดสามบท ซึ่งหนังค่อนข้างยาวยืดเยื้อในช่วงท้ายเรื่อง มีดราม่าสะเทือนอารมณ์บ้าง รวมทั้งเพลงที่แม้จะมากไปหน่อย แต่ก็ฟังแล้วเพราะดี มีฉากน่ารัก ๆ ของตัวละครสอดแทรกบ้าง ซึ่งตัวละครหลักก็ดูดีมีเสน่ห์ แสดงได้สมบทบาทดี แต่ความคิดการกระทำของตัวละครในบางครั้งดูจะขัด ๆ ไปบ้าง 

คะแนนส่วนตัว 5.5/10

รีวิวโดย 刘心爱

ตัวอย่าง

ขอบคุณภาพจาก Facebook The Hunger Games รูปหน้าปกที่ 1

ขอบคุณภาพจาก Lionsgate Films รูปหน้าปกที่ 2

ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Color Force รูปหน้าปกที่ 3