วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

รีวิวหนัง All Fun and Games (2023) ปลุกเกมนรก

 


                All Fun and Games (2023) ปลุกเกมนรก เป็นภาพยนตร์สยองขวัญอเมริกันที่เขียนโดย Ari Costa, Eren Celeboglu และ JJ Braider กํากับโดย Costa และ Celeboglu นําแสดงโดย Asa Butterfield และ Natalia Dyer

               ฉันจะเล่น ฉันจะไม่เลิก บอกฉันสิปีศาจ ฉันใช่ไหม เมื่อใดก็ตามที่พูดตามถูกสาปให้ต้องเล่นเกมถึงชีวิต

               เรื่องราวของ บิลลี่, มาร์คัส, โซฟี, เฟลทเชอร์, พีท และ บ๊อบ ที่ถูก โยนาห์ (โจ) บังคับให้เล่นเกมที่แตกต่างโดยการพูดคำว่า ฉันจะเล่น ฉันจะไม่เลิก ทีละคนและพูดคำที่เหลือตามข้อความที่สลักไว้บนมีดที่เขาได้พบในไดอารี่ของโจแอนนา กู๊ด 1692 ในชาเลม รัฐแมสซาชูเชตส์ ก่อนที่เขาจะชักมีดเล่มนั้นออกมา และใครก็ตามที่ได้สัมผัสมันจะถูกปีศาจควบคุมให้เล่นเกม

              เปิดเรื่องด้วยการเกริ่นนำเรื่องราวผ่านตัวละครคร่าว ๆ ก่อนฉายถึงที่มาที่ไปของมีดและตัวละครที่ได้พบมีด พร้อมทั้งเสียงเรียกลึกลับ แต่กว่าจะเข้าเรื่องมัวแต่ฉายอย่างอื่นที่ค่อนข้างนานน่าเบื่อไปหน่อย โดยเมื่อตัวละครสัมผัสกับมีดจะฉายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมในอดีต และเมื่อปรากฎตัวอักษรจะเริ่มเข้าควบคุมตัวละคร ซึ่งตัวละครจะทำตัวแปลก ๆ ถูกสิงและถูกปีศาจควบคุมให้เริ่มชวนเล่นเกมตามคำพูดที่สลักไว้บนมีด ซึ่งเมื่อพูดจะฉายเหมือนมีบางอย่างเข้ามาใกล้ ๆ และเริ่มเกิดเหตุการณ์แปลก ๆ โดยเกมที่ให้เล่นก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็ชวนให้ลุ้นบ้าง แต่ดูแล้วค่อนข้างขัดใจตัวละครไปหน่อย โดยได้เปิดเผยเรื่องราวในช่วงท้ายเรื่อง พร้อมกับฉายถึงตัวละครที่ต้องหาวิธีเอาชนะเกม ซึ่งจบทิ้งท้ายเหมือนมีต่อ

คะแนนส่วนตัว 4/10

รีวิวโดย 刘心爱


"คำสาปแช่งผีแค้นและเกมแห่งการมองเห็น"

              เรื่องราวของ 3 พี่น้อง ที่ได้ไปพบเจอกริช ในบ้านร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งน้องชายคนเล็กสุดได้เก็บเอามันกลับมาที่บ้านโดยไม่รู้เลยว่ามันเป็นกริชต้องสาป ที่ผู้ใดครอบครองจะถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงและชวนผู้คนรอบข้างเล่นเกมและถ้าแพ้นั่นหมายถึงความตายที่จะถูกมอบให้แก่ผู้ที่แพ้เกม!!

             ภาพยนตร์สยองขวัญ ลุ้นระทึก ที่นำเสนอในรูปของการเล่นเกมส์อาถรรพ์ โดยผู้ที่โดนผีสิงจะกำหนดเกมส์และไล่ฆ่าคนที่แพ้เกมส์ ซึ่งก็เป็นหนังที่ดูง่าย ตรงไปตรงมา มีความระทึกพอสมควรตามประเภทหนัง

              แม้หนังจะดูง่าย ตรงไปตรงมาและดูสนุกพอสมควร แต่จุดอ่อนของหนังคือไคลแมกซ์ ที่ดูคลี่คลายง่ายไปหน่อย แบบไม่ได้ใช้ความคิดใด ๆ ถ้าเทียบกับปมที่หนังปูมา

               ภาพรวมดูเอาความบันเทิงแบบไม่คาดหวังก็ถือว่าพอดูสนุกผ่าน ๆ แต่อย่าคิดถามถึงเหตุผลในช่วงไคลแมกซ์ก็พอ เพราะผมก็งง ๆ เหมือนกัน

คะแนนส่วนตัว 3.5/5

รีวิวโดย A.L. Lucky


ตัวอย่าง


ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Gozie AGBO รูปหน้าปกที่ 1รูปหน้าปกที่ 2รูปหน้าปกที่ 3

ไม่มีความคิดเห็น:

ป้ายกำกับ