วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2566

รีวิวหนัง The Nun 2 (2023) เดอะ นัน 2

 


              The Nun 2 (2023) เดอะ นัน 2 เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติสไตล์โกธิกสัญชาติอเมริกันที่กำกับโดย Michael Chaves พร้อมบทภาพยนตร์ที่เขียนโดย Ian Goldberg, Richard Naing และ Akela Cooper จากเรื่องราวของ Cooper ซึ่งเป็นภาคต่อของ The Nun (2018) และภาคที่เก้าในแฟรนไชส์ ​​The Conjuring Universe นำแสดงโดย Taissa Farmiga, Jonas Bloquet และ Bonnie Aarons ที่กลับมาจากภาคแรก โดยมี Storm Reid และ Anna Popplewell ร่วมแสดง Peter Safran และ James Wan กลับมาเป็นผู้อำนวยการสร้าง

              ในปี 2017 Wan ได้พูดคุยถึงความเป็นไปได้ของภาคต่อของ Nun และภายในปี 2019 Safran ก็เปิดเผยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาในช่วงต้น ในตอนแรก Cooper ได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้เขียนบท แต่เพียงผู้เดียวสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ก่อนที่ Goldberg และ Naing จะร่วมเป็นผู้เขียนบทในเวอร์ชันสุดท้ายของบทภาพยนตร์ Chaves ซึ่งเคยกำกับภาพยนตร์สองเรื่องก่อนหน้านี้ใน The Conjuring Universe ได้แก่ The Curse of La Llorona (2019) และ The Conjuring: The Devil Made Me Do It (2021) ได้รับการประกาศให้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ การถ่ายภาพหลักเริ่มในเดือนตุลาคม 2022 ในฝรั่งเศส The Nun II มีกำหนดเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 8 กันยายน 2023 โดย Warner Bros. Pictures

"โกลาหลพี่แม่ชี พากันว้าวุ่นเลย"

                 การกลับมาอีกครั้งของวาลัคผีแม่ชี (บอนนี่ อารอนส์) ที่คราวนี้มันมาสร้างความสยองครั้งใหม่ให้กับเมืองต่าง ๆ เมื่อมีบาทหลวงโดนมันฆ่าตายในหลาย ๆ ที่ ทำให้ทางสำนักสงฆ์ต้องตาม ซิสเตอร์ไอรีน (เทสซ่า ฟาร์ไมก้า) ผู้จัดการกับมันในภาคที่ 1 กลับมาตามสืบและจัดการกับมันอีกครั้ง ซึ่งในคราวนี้มันมีเป้าหมายหลักที่โรงเรียนสอนศาสนาสตรีที่มีเด็กหญิงเป็นจำนวนมากที่กำลังจะตกอยู่ในอันตรายจากฝีมือของวาลัค

                 การกลับมากับภาคที่ 2 ของผีแม่ชีภาคหลัก ไม่นับใน Conjuring กับผีที่แค่โผล่มายืนนิ่ง ๆ ในความมืดก็สยองแล้ว ต้องยอมใจคนออกแบบและหน้าตานักแสดงที่ดูสยองและหลอนทุกครั้งที่โผล่มาในหนัง

                 ในภาคที่ 2 นี่ในภาพรวมมีฉากหลอน ๆ โผล่มาเป็นระยะ ที่ดูระทึกขวัญใช้ได้ แต่ถ้าตัดความหลอนออก การเล่าเรื่องอาจจะดูเฉย ๆ ไม่ได้น่าชวนติดตามสักเท่าไหร่ เหมือนไม่เน้นเนื้อเรื่องที่ทำออกมาดูเบาหวิวมาก ๆ เล่าไปเรื่อย ๆ อยากจะยัดอะไรก็ใส่ ไม่เข้าใจเหตุผลในการกระทำของตัวละครในบางเรื่องหรือแม้กระทั่งการกระทำของผีเองก็ตาม โผล่ไปเรื่อย ทุก ๆ ที่ สะเปะสะปะ เพราะฉนั้นจึงดูเพื่อเน้นความบันเทิงซึ่งเป็นเหมือนจุดขายของหนัง ก็ถือว่าประเด็นนี้พอตอบโจทย์หนังสยองขวัญได้

                 ในช่วงไคลแมกซ์ รู้สึกว่าความหลอนลดลง แต่กลับกลายเป็นความโกลาหลวุ่นวาย คนหนีผี วิ่งวุ่นกันทั้งตึกและทั้งโบสต์ พล็อตมีความคล้ายหนังผีไทยเลย ซึ่งความน่ากลัวลดหายไปถ้าเทียบกับภาคก่อน ๆ

                ภาพรวม ก็เป็นหนังผีภาคต่อที่สร้างมาเพื่อขายบรรดาแฟนๆ จักรวาล Conjuring มีความหลอน ความน่ากลัวอยู่ในระดับพอใช้ได้ แต่ไม่ได้ถึงขั้นน่าจดจำสักเท่าไร ดูเพื่อเก็บให้ครบหนังจักรวาล Conjuring เผื่อจะเชื่อมโยงไปภาคอื่น ๆ ในอนาคต

                 และสุดท้าย หนังมีฉากหลัง End credit 1 ฉากให้ดู ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีภาค 3 กันอีกมั้ยในอนาคต..?

คะแนนส่วนตัว 3.5/5

รีวิวโดย A.L. Lucky


              เรื่องราวของ ซิสเตอร์ไอลิน พาลเมอร์ ผู้ที่มีชีวิตรอดเพียงคนเดียวจากประสบการณ์การเผชิญหน้ากับปีศาจที่ถูกคริสจักรเรียกตัวมา เพื่อตรวจสอบคดีการเสียชีวิตที่เซเลสเต้ได้วาดภาพในฮังการีเกี่ยวกับบุคคลที่เสียชิวิตอย่าง แม่ชีวัยเก้าสิบปีที่ยิงตัวเองตายบนขั้นบันไดโบสถ์ กลาส ออสเตรีย นักบวชปาดคอตัวเองด้วยลูกประคำระหว่างประกอบพิธี อีโด โล อิตาลี สามเณรกระโดดออกจากหน้าต่างและเมื่อเดือนที่แล้วทาลาสคอน ฝรั่งเศส บาทหลวงอีกคนถูกเผาในโบสถ์อย่างไร้สาเหตุ ซึ่งดูเหมือนจะเคลื่อนตัวไปทั่วยุโรปตะวันตก แต่แหล่งที่มาชี้ว่าอยู่ในโรมาเนีย ซึ่งเชื่อว่าปีศาจยังมีชีวิตอยู่ ว่าปีศาจต้องการอะไรและจะมุ่งหน้าไปที่ไหนต่อ แล้วเธอก็ได้พบสิ่งที่ปีศาจต้องการ บางสิ่งที่ทรงพลัง น่าปรารถนา เป็นโบราณวัตถุ

              เปิดเรื่องด้วยการฉายถึงตัวละครที่เจอกับปีศาจและถูกเล่นงานในทาลาสคอน ฝรั่งเศส 1956 ก่อนตัดเข้าเรื่องฉายถึงตัวละครหลักก่อนที่จะมีเหตุให้ต้องเดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่ในช่วงเปิดเรื่อง ซึ่งช่วงนี้ค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย จากนั้นก็เริ่มฉายถึงตัวละครที่ต้องเจอกับปีศาจอีกครั้ง โดยจะเน้นตัวละครในโรงเรียนที่เจอปีศาจ พร้อมกับตัวละครหลักที่กำลังตามสืบสวนจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีการเปิดเผยเรื่องราวที่มาที่ไปของปีศาจด้วยและเชื่อมโยงไปยังหอพักโรงเรียน ซึ่งมีฉายถึงเหตุการณ์ในภาคแรกบ้างและยังคงมีตัวละครหลัก ๆ จากภาคแรกร่วมด้วย รวมทั้งมีฉายถึงเรื่องราวในวัยเด็กของตัวละครหลักที่ภาคแรกไม่ได้พูดถึง โดยภาคนี้ยังคงเน้นไปที่การสืบสวนเป็นหลักและยังคงเน้นตุ้งแช่เหมือนเดิม แต่มีปีศาจเพิ่มเติมในหลายรูปแบบ ซึ่งช่วงหลอกหลอนก็จะเน้นบรรยากาศมืด ๆ ที่บางช่วงก็มืดเกินจนมองไม่ค่อยเห็น ชวนให้ลุ้นดีว่าจะเจออะไรและชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครในช่วงท้ายเรื่อง แต่ก็พอเดาเรื่องได้บ้างและบางช่วงค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย 

คะแนนส่วนตัว 5.5/10

รีวิวโดย 刘心爱

ตัวอย่าง


ขอบคุณภาพจาก Warner Bros. Pictures รูปหน้าปกที่ 1

ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Warner Bros. Pictures รูปหน้าปกที่ 2รูปหน้าปกที่ 3


ไม่มีความคิดเห็น:

ป้ายกำกับ