วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2566

รีวิวหนัง Baby Blue (2023)

 


                Baby Blue (2023) เป็นภาพยนตร์สยองขวัญจากอเมริกาที่กำกับโดย Adam Mason เขียนโดย Adam Mason และ Simon Boyes นำแสดงโดย Dylan Sprayberry, Cyrus Arnold และ Oliver Cooper

             แบรดลีย์ บลู หรือที่รู้จักกันในชื่อ เบบี้ บลู มีชื่อเสียงน่าขนลุกในฐานะฆาตกรต่อเนื่องที่อายุน้อยที่สุดในอเมริกา ผู้สังหารชายหญิงอย่างน้อยสามสิบสองคน

             เรื่องราวของ อลิซ, เจเจ, ออกัส (บีนส์) และ ฮัทช์ ที่รับจ้างถ่ายทำบล็อกวีดีโอแกล้งคน แต่ โม ต้องการให้ดังกว่านี้ด้วยการทำวีดีโอเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจริง อะไรที่มันแย่ น่าขยะแขยง วิตถาร หดหู่ โดยต้องลงลึกกว่าทุกคนที่เคยทำมา อลิซจึงได้เสนอถึง คาลวิน โจนส์ ที่เกิดคลั่งและตัดสินใจโดดจากดาดฟ้าเมื่อหกเดือนก่อนที่เรดมอนท์ ด้วยการเปิดคลิปจากกล้องวงจรปิดเรดมอนท์ให้ดู ซึ่งคาดว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตายและเกี่ยวกับอาชญากรรมเหนือธรรมชาติ ทำให้พวกเขาสนใจสืบหาความจริง โดยพวกเขาได้เจอที่อยู่ของ จอย แฟนคาลวิน โจนส์ ที่เวสฮอลิวูด ที่พูดถึง เบบี้ บลู รวมทั้งเจอมือถือของคาลวิน โจนส์ ที่บอกว่าอย่าเปิดคลิปดูเด็ดขาด แต่แล้วก็มีคนเปิดดูจนได้เจอกับเบบี้ บลู

              เปิดเรื่องฉายถึงด็อกเตอร์บาร์เร็ตต์ที่กำลังสัมภาษณ์ลอร่า มิลส์ อายุ 13 จากเรซิด้า แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2017 ซึ่งถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมครั้งแรก โดย เบบี้ บลู บังคับให้เธอทำหลังดูคลิป จากนั้นตัวละครก็ฆ่าตัวตายและตัดเข้าเรื่องฉายถึงตัวละครหลักที่กำลังทำงาน พร้อมแนะนำตัวละครแต่ละคน ซึ่งจะมีคนคอยถ่ายวีดีโออยู่ตลอดทั้งเรื่องสลับกันไปมาเหมือนดูหนังฟาวด์ฟุตเทจ จากนั้นก็เริ่มพูดถึงเหยื่อฆ่าตัวตายด้วยพฤติกรรมแปลก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ซึ่งช่วงหลังจากนี้ไปจะเน้นไปที่การสืบสวนเรื่องราวทีละขั้นที่ค่อย ๆ เปิดเผยเรื่องราว ซึ่งเกี่ยวข้องกับ เบบี้ บลู ค่อย ๆ น่าสนใจขึ้น ดูแล้วชวนติดตามและลุ้นว่าจะเจออะไร โดยเฉพาะเมื่อเข้ามายังสถานที่ที่ให้บรรยากาศมืด ๆ หลอน ๆ บวกกับเพลงที่คอยตามหลอกหลอนตัวละคร ทำให้ชวนหลอนตามไปด้วย จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางเรื่องจะเริ่มฉายถึงฆาตกรที่ตามเล่นงาน ซึ่งก็ชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครดีและชวนลุ้นว่าจะแก้ปัญหาได้ยังไง ถึงแม้จะพอเดาเรื่องได้บ้าง โดยสอดแทรกจุดตลก ๆ ให้ยิ้มและหัวเราะบ้างและตัวละครแต่ละคนถือได้ว่าคัดมาได้สมบทบาท โดยจบทิ้งท้ายเหมือนมีต่อ

คะแนนส่วนตัว 6.5/10

ตัวอย่าง


ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Microdose Entertainment รูปหน้าปกที่ 1รูปหน้าปกที่ 2

ไม่มีความคิดเห็น:

ป้ายกำกับ