วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2565

รีวิวหนัง Day shift (2022) งานต้องล่า

 


               Dayshift (2022) งานต้องล่า เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้แนวแวมไพร์จากอเมริกาที่กำกับโดย J.J. Perry ในผลงานการกำกับเรื่องแรกของเขา โดยมีบทภาพยนตร์โดย Tyler Tice และ Shay Hatten โดยอิงจากเรื่องโดย Tice นำแสดงโดย Jamie Foxx, Dave Franco, Natasha Liu Bordizzo, Meagan Good, Karla Souza, Steve Howey, Scott Adkins และ Snoop Dogg ซึ่งมีกำหนดเข้าฉาย 12 สิงหาคม 2022 โดย Netflix

               งานล่าแวมไพร์ที่มีเงินเป็นเดิมพัน โดยต้องหาเงินมาให้ทันก่อนกำหนด เพื่อครอบครัวของเขา

               เรื่องราวของ บัด จาบลอนสกี้ นักล่าแวมไพร์ที่รับจ้างทำความสะอาดสระบังหน้าไม่ให้ครอบครัวรู้ โดยต้องหาเงินค่าเทอมที่ต้องจ่ายภายในวันจันทร์ในราคาห้าพันเหรียญและค่าดัดฟันเนื่องจากฟันซ้อนกันของเพจ ลูกสาว เขาจึงรับปากว่าจะหาเงินมาให้ทันไม่งั้นโจส ภรรยา จะพาเพจลงใต้ไปฟลอริดา โดยเขาได้เอาของที่หามาได้อย่างฟันของแวมไพร์มาเรเซดา สำนักงานเงินกู้ เพื่อให้ทรอยประเมินค่าของ แต่กลับยังได้เงินมาไม่มากพอ จึงได้ขอความช่วยเหลือจากบิ๊กเจ (บิ๊กจอห์น) ให้เข้าไปทำงานในสมาพันธ์อีกครั้งหลังจากสร้างความวุ่นวายจนถูกพักงานโดยเขาได้ทำงานในกะกลางวันซึ่งเป็นโอกาสสุดท้าย โดย ซีเกอร์ ให้ เซธ คอยจับตาดูเขาทุกย่างก้าวเพื่อที่จะได้เลื่อนตำแหน่งแทนที่แครอล แต่แล้วก็มี ออดรีย์ แวมไพร์ตัวอื่นที่ต้องการครองแวลลีย์ออกตามล่าเขา เพื่อแก้แค้นเขาที่ได้ฆ่าลูกของเธอ

               เป็นหนังแอ็คชั่นคอมมาดี้ที่สอดแทรกตลอดทั้งเรื่อง โดยเปิดเรื่องฉายถึงตัวละครที่ทำงานก่อนที่จะไปล่าแวมไพร์ ซึ่งแวมไพร์ทำได้โหดน่าสนใจดีตัวเดียวเล่นงานยากมาก จัดฉากแอ็คชั่นตั้งแต่ช่วงเปิดเรื่องเลย ซึ่งก็ทำได้สนุกชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละคร แต่หลังจากนั้นแวมไพร์ตายง่ายไปหน่อย จากนั้นก็ตัดเข้าเรื่องฉายถึงตัวละครอื่นเพิ่มเติม โดยเริ่มจากฉายถึงตัวละครแวมไพร์ก่อนและฉายถึงตัวละครหลัก ซึ่งช่วงแรกจะเป็นการปูที่มาที่ไปของตัวละคร พร้อมกับการทำงานหาเงินไปเรื่อย จากนั้นก็ได้ฉายถึงตัวละครแวมไพร์ในช่วงแรกอีกครั้งซึ่งมีพลังความสามารถมากกว่าแวมไพร์ในช่วงเปิดเรื่อง แต่หลังจากช่วงเข้าเรื่องเป็นต้นมากลับยังไม่มีฉากแอ็คชั่นล่าแวมไพร์เลย เน้นไปที่การหาเงินมากกว่า แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ค่อย ๆ พูดถึงเรื่องแวมไพร์และออกล่าแวมไพร์อีกครั้ง ซึ่งก็จะเน้นไปที่การล่าแวมไพร์ จัดเต็มฉากแอ็คชั่นแทบทั้งเรื่อง ซึ่งมีฉากโหดบ้าง ดูลงทุนดี โดยแวมไพร์มีหลายประเภทและมีทั้งตัวดีกับไม่ดี รวมทั้งฉายถึงแวมไพร์ที่ออกตามล่าตัวละครหลักเป็นช่วง ๆ โดยช่วงครึ่งเรื่องจะมีตัวละครอื่นมาช่วยล่าแวมไพร์ด้วย ซึ่งฝีมือดีไม่แพ้ตัวละครหลักเลย มีพูดอ้างอิงถึงหนังแวมไพร์เรื่องอื่นด้วย ช่วงท้ายเรื่องจะเป็นการช่วยครอบครัวที่มีตัวละครอื่นมาช่วย่นเดิม 

คะแนนส่วนตัว 6.5/10

ตัวอย่าง


ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต 87Eleven Entertainment รูปหน้าปกที่ 1รูปหน้าปกที่ 2รูปหน้าปกที่ 3


ไม่มีความคิดเห็น:

ป้ายกำกับ