Escape the Field (2022) เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญอเมริกันที่กำกับโดย Emerson Moore และนำแสดงโดย Jordan Claire Robbins, Theo Rossi และ Shane West หลักการถ่ายภาพเกิดขึ้นในโตรอนโต เดือนกันยายน 2020
คนกลุ่มหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาในไร่ข้าวโพดพร้อมกับของบางอย่างที่แตกต่างกัน แต่ล้วนมีสัญลักษณ์เดียวกันหมด มันเป็นปริศนาในการหาทางออก
เรื่องราวของ แซม ที่ตื่นขึ้นมาในไร่ข้าวโพดโดยไม่ทราบสาเหตุว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง โดยข้างกายเธอมีเพียงปืนหนึ่งกระบอกที่วางอยู่ จากนั้นก็ได้พบกับ ไทเลอร์ ที่ตื่นขึ้นมาในไร่ข้าวโพดโดยไม่ทราบสาเหตุและได้เจอไม้ขีด แถมของที่พกติดตัวก็หายหมดเช่นกัน ไทเลอร์จึงชวนเธอออกไปจากที่นี่ และได้พบกับ ไรอัน, อีธาน และ เดนิส ระหว่างทาง ซึ่งไรอันได้โคมไฟ เดนิสได้มีดและอีธานได้เข็มทิศ ถึงแม้ทุกคนจะได้ของที่แตกต่างกัน แต่สัญลักษณ์บนโคมไฟล้วนอยู่บนของที่ทุกคนได้ ซึ่งไรอัน, อีธาน และ เดนิส ใช้เข็มทิศแล้วพามาตรงจุดตลอดและคิดว่าจะต้องเจออะไรบางอย่างแน่นอน แซมและไทเลอร์จึงตัดสินใจตามพวกเขาไป จนได้เจอกับหุ่นไล่กาและ คาเมรอน ที่ไม่ได้ของอะไรเลย ได้ยินเพียงแค่เสียงไซเรนเท่านั้น แต่เมื่อพวกเขาไปทางไหนก็เจอแต่ไร่ข้าวโพดเต็มไปหมด พวกเขาจะหาทางออกจากที่นี่ไปได้หรือไม่
เปิดเรื่องฉายถึงตัวละครหลักที่ตื่นขึ้นมาในทุ่งก่อนที่จะฉายตัวละครคนอีกคนที่อยู่ในทุ่งด้วยเช่นกัน จากนั้นก็ฉายตัวละครอื่นเพิ่มเติมทีละคน ซึ่งยังไม่ได้เปิดเผยอะไรมากว่ามาอยู่ได้ยังไงและเกิดอะไรขึ้น ฉายเพียงแค่ว่าแต่ละคนมีของที่วางไว้ข้างกายแตกต่างกันไป ซึ่งล้วนมีประโยชน์ในการใช้งานที่ต่างกันและมีสัญลักษณ์บางอย่างที่ของเหมือนกันหมด ซึ่งแต่ละคนจำเรื่องราวได้เพียงเลือนลางและของแต่ละอย่างอาจเป็นปริศนาที่ช่วยหาทางออกได้ รวมทั้งหุ่นไล่กาที่ดูน่ากลัวที่เป็นจุดเด่นสำคัญในเรื่อง แต่การดำเนินเรื่องค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย โดยจะฉายถึงตัวละครที่หาทางออกไปเรื่อย ซึ่งเน้นฉายในสถานที่เดียว พร้อมกับพูดคุยเรื่องราวที่มาที่ไปของแต่ละคนในช่วงแรก โดยหนังจะพยายามชวนเข้าใจผิด สงสัยหวาดระแวงกันเองและไม่ถูกกัน ซึ่งบางช่วงก็ได้เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นและเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างด้วย แต่ไม่ได้ฉายให้เห็นชัดเจนว่าคืออะไร โดยช่วงกลางเรื่องจะเริ่มมีตัวละครหายไปและตัวละครที่ทำตัวแปลก ๆ หลังโดนบางอย่างเข้า หลายช่วงค่อนข้างมืดไปหน่อยมองไม่ค่อยรู้เรื่อง ซึ่งในระหว่างที่เจอสิ่งต่าง ๆ เหมือนเป็นปริศนาที่บ่งบอกทางออก ซึ่งตัวละครต้องมาแก้ปริศนาไปทีละขั้น ตัวละครแต่ละคนดูฉลาดมีไหวพริบดี ซึ่งช่วงท้ายเรื่องจะเน้นไปที่การแก้ปริศนาหาทางออก แต่บางฉากก็พอเดาเรื่องได้บ้าง โดยจบทิ้งท้ายเหมือนมีต่อ ซึ่งเมื่อดูจนจบพล็อตเรื่องมีความคล้ายเรื่อง The Maze Runner 1 (2014) วงกตมฤตยู ภาค 1
คะแนนส่วนตัว 4.5/10
ตัวอย่าง
ขอบคุณภาพจาก Lionsgate Films รูปหน้าปกที่ 1 / รูปหน้าปกที่ 2 / รูปหน้าปกที่ 3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น