วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2565

รีวิวหนัง Scream (2022) หวีดสุดขีด

 


             Scream (2022) หวีดสุดขีด เป็นภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์อเมริกันที่กำกับโดย Matt Bettinelli-Olpin และ Tyler Gillett เขียนโดย James Vanderbilt และ Guy Busick ซึ่งเป็นภาคที่ 5 ของเรื่อง Scream แม้จะเรียกกันว่าเป็นการเปิดตัวซีรีส์ภาพยนตร์อีกครั้ง แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ Scream 4 (2011) โดยตรง และเป็นภาคแรกในซีรีส์ที่ไม่ได้กำกับโดย Wes Craven โดยภาคนี้อุทิศให้กับ Wes Craven ในตอนต้นของการปิดเครดิต นำแสดงโดย Melissa Barrera, Mason Gooding, Jenna Ortega และ Jack Quaid ร่วมกับ Marley Shelton, Courteney Cox, David Arquette และ Neve Campbell โดยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2022 โดย Paramount Pictures 

             เรื่องราวของ แซม (ซาแมนธา คาร์เพนเตอร์) ลูกสาวของ บิลลี่ ลูมิส ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ต้องประสาทหลอนกับพ่อของเธออยู่ตลอดเวลาจนต้องคอยกินยาระงับประสาทและถูกฆาตกรสวมหน้ากากผีไล่ล่าที่วูดส์โบโรหลังจากที่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน ซึ่งมันได้กลับมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้นอกจากจะทำร้าย ทาร่า น้องสาวของเธอจนอาการสาหัสต้องเข้าโรงพยาบาลแล้ว ริชชี่ แฟนของเธอและเพื่อน ๆ ของทาร่าก็ถูกไล่ล่าด้วยเช่นกัน โดยก่อนฆาตกรจะลงมือฆ่ามักจะโทรมาหาเหยื่อโดยไม่ได้ระบุผู้โทรและชวนเล่นเกมตอบคำถามจากเรื่อง สแต๊ป ที่ตอนนี้ดำเนินไปถึงภาค 8 แต่ผิดหวังในเรื่องราวเดิมๆ จึงต้องการดัดแปลงเรื่องราวให้เป็นเหตุการณ์จริง เธอจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจาก ดิวอี้ ไรลีย์ นายอำเภอที่เกษียณ ผู้ซึ่งเคยเจอกับฆาตกรคนนี้มาก่อน ใครกันคือฆาตกรตัวจริง

              ภาคนี้เป็นภาคที่ห้าที่ดำเนินเรื่องต่อเนื่องกันจากภาคก่อน ซึ่งเป็นช่วงหลังจากยี่สิบห้าปีต่อมา โดยมีพูดถึงภาคก่อนหน้าบ้างและมีตัวละครเดิมจากภาคก่อนหน้ามาร่วมด้วย แต่ดำเนินเรื่องด้วยตัวละครชุดใหม่เป็นหลัก ซึ่งตัวละบางคนในภาคนี้เกี่ยวข้องกับตัวละครในภาคก่อนหน้า โดยเปิดเรื่องฉายถึงตัวละครที่ต้องถูกฆาตกรสวมหน้ากากผีโทรมาเล่นเกมแล้วค่อยไล่ล่าก่อนตัดเข้าเรื่องฉายถึงตัวละครหลักที่เกี่ยวข้องกับตัวละครในช่วงเปิดเรื่อง ซึ่งต้องมาเจอกับฆาตกรเช่นกัน และทำให้ต้องไปขอความช่วยเหลือก่อนที่จะเริ่มฉายตัวละครอื่นที่ถูกไล่ล่าทีละคน โดยหนังพยายามหลอกคนให้ชวนคาดเดาว่าฆาตกรตัวจริงคือใคร จนทำให้ชวนหวาดระแวงกันเอง ซึ่งฉากไล่ล่าและฉากหลอกก็พอเดาเรื่องได้บ้าง แต่บางช่วงก็สร้างบรรยากาศได้น่าสนใจดี ฉากฆ่าก็ถือว่าทำได้โหดสมกับหนังฆาตกร โดยมีพูดถึงที่มาที่ไปของตัวละครหลักบ้างและเปิดเผยเรื่องราวช่วงท้าย ๆ เรื่อง ซึ่งดูจะเปิดเผยตัวฆาตกรง่ายไปหน่อยและก็หักมุมแบบแนวเดิม ๆ จึงไม่ถึงกับชวนแปลกใจมากและมีบางช่วงที่น่าเบื่อไปบ้าง

คะแนนส่วนตัว 5.5/10

ตัวอย่าง


 

ขอบคุณภาพจาก Facebook Paramount Pictures รูปหน้าปกที่ 1

ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Paramount Pictures รูปหน้าปกที่ 2 / รูปหน้าปกที่ 3





 

ไม่มีความคิดเห็น:

ป้ายกำกับ