Godzilla vs Kong (2021) ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง เป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาดอเมริกันที่กำกับโดย Adam Wingard ซึ่งเป็นภาคต่อของทั้ง Godzilla: King of the Monsters (2019) และ Kong: Skull Island (2017) เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สี่ในตำนาน MonsterVerse ภาพยนตร์เรื่องที่ 36 ในแฟรนไชส์ Godzilla ภาพยนตร์เรื่องที่ 12 ในแฟรนไชส์ King Kong และภาพยนตร์เรื่อง Godzilla เรื่องที่สี่ที่สร้างโดยสตูดิโอฮอลลีวูด นำแสดงโดย Alexander Skarsgård, Millie Bobby Brown, Rebecca Hall, Brian Tyree Henry, Shun Oguri, Eiza González, Julian Dennison, Lance Reddick, Kyle Chandler และ Demián Bichir
เรื่องราวขององค์กรเอเพ็กซ์ที่ได้จับคองแยกไว้ในเกาะกระโหลก เพื่อไม่ให้มันออกไปเจอกับก๊อดซิลล่า โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการหาแหล่งพลังงาน พร้อมทั้งแอบทดลองลับบางอย่าง แต่แล้วก๊อตซิลล่าก็ได้ปรากฎตัวขึ้นในรอบสามปี เมื่อถูกกระตุ้นด้วยบางสิ่ง ซึ่งมันได้โจมตีมนุษย์และทุกสิ่งที่ขวางหน้า พร้อมทั้งมุ่งหน้ามายังเอเพ็กซ์และมุ่งตรงมายังที่ที่คองอยู่ พวกเขาจึงต้องปล่อยคอง เพื่อให้มันป้องกันตัว และตัดสินใจหยุดส่งสัญญาณเสียงต่าง ๆ เพื่อให้ก๊อดซิลล่ากลับไป พร้อมทั้งพาคองไปอยู่ที่อื่น แต่โลกไม่อาจมีจ่าฝูงสองตัว พวกมันจึงต้องเข้าต่อสู้กัน เพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่
ดำเนินเรื่องต่อเนื่องจาก Godzilla: King of the Monsters (2019) ก็อดซิลล่า ราชันแห่งมอนสเตอร์ โดยเปิดเรื่องด้วยการฉายคองที่ถูกจับไว้ที่เกาะกระโหลก จากนั้นก็ฉายถึงก๊อดซิลล่าที่ปรากฎตัวขึ้นมาจากน้ำ พร้อมบุกโจมตี ซึ่งฉากการปรากฎตัวและฉากปะทะกันของสัตว์ประหลาดต่าง ๆ ในเรื่องทำได้ยิ่งใหญ่อลังการดูลงทุนดี โดยหนังดำเนินเรื่องตัดสลับตัวละครหลักสองฝั่งไปมา ซึ่งการดำเนินเรื่องค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย การใช้ตัวละครยังใช้ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นเหมือนเดิม ตัวละครแต่ละคนไม่ค่อยมีที่มาที่ไปไม่ ไม่ค่อยมีเอกลักษณ์น่าจดจำเท่าไหร่ เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรมาก เน้นการทดลองลับกับก๊อดซิลล่าที่ตามหาคอง ซึ่งดูจะเน้นฉายคองมากกว่า ยังดีที่มีฉากปะทะกันของสัตว์ประหลาดต่าง ๆ สอดแทรกบ้าง ซึ่งก็มีสัตว์ประหลาดอย่างอื่นมาร่วมแจมด้วย มีฉากดราม่าบ้าง ในช่วงท้าย ๆ ซึ่งดูแล้วก็ชวนสงสาร โดยเฉพาะคองกับก๊อดซิลล่า
คะแนน 5/10
ตัวอย่าง
อ่านรีวิวเรื่องอื่น ๆ
ขอบคุณภาพจาก Facebook Godzilla vs. Kong รูปหน้าปกที่ 1 / รูปหน้าปกที่ 2 / รูปหน้าปกที่ 3 / รูปหน้าปกที่ 4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น