วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2564

รีวิวหนัง DreadOut (2019) เกมท้าวิญญาณ

 


                DreadOut (2019) เกมท้าวิญญาณ เป็นภาพยนตร์สยองขวัญจากอินโดนีเซีย ว่าด้วยเรื่องราวของลินดาที่ถูกรุ่นพี่อีริค เบนี่ เจส อเล็กซ์และดีแอน ขอร้องให้ไปช่วยพวกเขาในการไปไลฟ์สดในตึกผีสิงในบล็อกดี เพื่ออยากเพิ่มผู้ติดตามให้มากขึ้น เนื่องจากเธอรู้จักรปภ.ที่ทำงานในตึกนั้นดี ในตอนแรกเธอไม่อยากไป เนื่องจากติดงานและจะเสียการเรียน ดังนั้นเพื่อนของเธอจึงช่วยเอาต่างหูมอบให้เธอเป็นหลักประกัน เมื่อกลับมาจะโอนให้เธอ เพื่อให้เธอไม่ต้องทำงานที่นี่ เธอจึงยินยอมช่วยพวกเขาและออกเดินทางไปยังตึกผีสิงทันที และเมื่อมาถึงพวกเขาก็เริ่มทำการไลฟ์สดในตึกผีสิง โดยมีข้อแม้ว่าห้ามเดินไปตรงทางเดินที่มีเทปของตำรวจ แต่ว่าในส่วนอื่น ๆ ของตึกสัญญาณไม่ดี พวกเขาจึงละเมิดข้อห้ามและเดินไปตรงทางเดินนั้น ซึ่งก็เป็นจุดที่พอมีสัญญาณและเผื่อจะเจออะไรหลอน ๆ น่าสนใจ แต่เมื่อเธอเข้ามาข้างในนั้นก็รู้สึกเหมือนว่าเคยมาที่นี่และเคยเห็นของเหล่านี้
 

                เปิดเรื่องด้วยการฉายตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งสถานที่ บรรยากาศดูมืด ๆ น่ากลัวดี โดยจะฉายถึงครอบครัวหนึ่งที่โดนคนกลุ่มหนึ่งขู่บังคับให้อ่านข้อความบางอย่าง เพื่อหยุดยั้งปีศาจในร่างมนุษย์ แต่ไม่สำเร็จ หลังจากนั้นก็ได้กลายเป็นตึกร้าง จากนั้นก็ตัดมาฉายถึงตัวละครหลักก่อนที่จะถูกรุ่นพี่ขอให้ช่วยไปยังตึกผีสิง สถานที่ดูหลอน ๆ มืด ๆ น่ากลัวดี หลังจากมาถึงตึกผีสิงก็จะไลฟ์สดผ่านมือถือเลย ซึ่งเป็นการไลฟ์สดและการมองผ่านกล้องมือถือเป็นช่วง ๆ ให้อารมณ์เหมือนกำลังนั่งดูผ่านการไลฟ์สดและมองผ่านกล้องในมือถือเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยจะฉายให้เห็นบรรยากาศ สถานที่โดยรอบที่ตัวละครกำลังเดินไลฟ์สด ชวนลุ้นดี มีตุ้งแช่บ้าง บางจุดพอเดาเรื่องได้บ้าง จากนั้นก็ค่อย ๆ ฉายถึงคราบงู ภาพวาดและข้อความลึกลับที่ตัวละครหลักเห็นคนเดียว รวมทั้งเรื่องราวที่ตัวละครหลักเห็นในช่วงเปิดเรื่อง และเรื่องราวแปลก ๆ ที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นหลังจากการอ่านข้อความนั้น ดูลึกลับชวนลุ้นชวนติดตามตลอดทั้งเรื่อง แทบไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย ฉากหลอกหลอนและการใช้เอฟเฟกต์ทำได้ดี แต่อาจมีบางจุดที่ดูลอย ๆ ตลก ๆ ไปบ้าง โดยเฉพาะตัวผี ซึ่งบางฉากดูตลก ๆ และผีดูลีลาเยอะไปหน่อย บางจุดตัวละครก็พอมีไหวพริบรู้จักสังเกตอยู่บ้าง แต่ก็มีบางจุดที่ดูแล้วขัดใจไปหน่อย โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ เรื่องการแสดงของตัวละครแต่ละคนดูจะแอคติ้งมากเกินไปจนดูแล้วเหนื่อยแทน ซึ่งหนังจะค่อย ๆ เปิดเผยเรื่องราวทีละน้อยจากภาพวาด มีฉากโหดบ้าง มีหักมุมบ้างเล็กน้อย ครึ่งเรื่องแรกหนังทำได้ดีน่าสนใจ แต่ครึ่งเรื่องหลังดูดร็อปลงไปและเรื่องราวในหนังดูจะไม่ค่อยเกี่ยวกับชื่อเรื่องภาษาไทยเท่าไหร่ 

คะแนน 5.5/10

ตัวอย่าง


อ่านรีวิวเรื่องอื่น ๆ 



ขอบคุณภาพจาก Nimpuna Sinema รูปหน้าปกที่ 1

ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Nimpuna Sinema รูปหน้าปกที่ 2 / รูปหน้าปกที่ 3

ไม่มีความคิดเห็น:

ป้ายกำกับ