ใครที่เคยดูหนังแนวระทึกขวัญหรือใครที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศบ่อย ๆ ย่อมต้องเคยเห็นหรือรู้จัก Motel (โมเทล) ซึ่งมีกันมากมายเกลื่อนกลาด และถ้าเทียบกับของไทยจะเรียกว่า โรงแรมม่านรูด ที่มีม่านเปิดออกและสามารถเอารถเข้าไปจอดได้ โดย Motel นี้ จะเป็นที่พักค้างคืนชั่วคราวที่มีที่จอดรถเฉพาะห้องพักแต่ละห้อง และห้องพักจะมีขนาดเล็กราคาไม่แพงสามารถพักได้แค่สองคน จึงเหมาะกับคู่รักที่มาพัก ซึ่งโดยทั่วไปจะตั้งอยู่ตามเส้นทางระหว่างการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ สำหรับเปิดให้บริการแก่ผู้เดินทางโดยรถยนต์ที่แวะพักระหว่างทาง แต่ว่า Motel ที่กำลังจะพูดถึงนี้ ไม่ใช่ Motel ที่มีไว้ให้แขกเข้าพัก แต่มีไว้ให้เพื่อรอเชือดโดยเฉพาะ โดยพวกเขาได้เตรียมห้องว่างนี้สำหรับรอรับแขก พร้อมทั้งทีวีและเครื่องเล่นเทป พร้อมทั้งเทปสำหรับสร้างความบันเทิงให้พวกเขา แต่หนึ่งในเทปเหล่านั้นไม่ใช่เทปบันเทิงทั่วไป แต่คือเทปที่เป็นจุดเริ่มต้นของการไล่เชือด แล้วพวกเขาเชือดเหยื่อไปทำไม ถ้าพร้อมแล้วมาเข้าสู่ เรื่องกันเลยค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับข้อมูลภาพยนตร์ของเรื่อง VACANCY (2007) ห้องว่างให้เชือด กันคร่าว ๆ กันก่อนเลย เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญสยองขวัญอเมริกันที่กำกับโดย Nimród Antal ผลิตโดย Screen Gems จากค่ายหนัง Sony Pictures Releasing International นำแสดงโดย Kate Beckinsale และ Luke Wilson ซึ่งมีทั้งหมด 2 ภาค โดยภาคนี้คือภาคแรก ส่วนภาคสองใช้ชื่อว่า Vacancy 2: The First Cut (2008) ห้องว่างให้เชือด 2 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เล่าย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นในภาคแรกก่อนที่จะเป็น Motel ไว้รอเชือดแขกที่เข้ามาพัก
โดยภาคนี้เป็นเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่มีปัญหากัน ซึ่งกำลังเดินทางไปยังเมืองแห่งหนึ่ง โดยต้องการใช้เส้นทางหลวง แต่เส้นทางหลวงกำลังซ่อมอยู่ จึงต้องใช้เส้นทางลัดแทน แต่ระหว่างทางได้เจอกับแรคคูนที่นั่งขวางทางอยู่ จึงทำให้รถเกิดเสียหลัก และเมื่อขับไปได้สักพักรถก็เริ่มมีอาการไม่ดี จากนั้นก็ได้ขับผ่านมาเจอปั๊มน้ำมันพอดี และมีคนผ่านทางมาจึงอาสาดูเครื่องยนต์ให้ พร้อมแนะนำทางที่จะไปทางหลวงให้พวกเขา แต่เมื่อขับไปได้สักพัก รถก็เกิดเสียอีก อีกทั้งมือถือก็ไม่มีสัญญาณและการเดินทางไปปั๊มก็ใช้ระยะทางไกลมาก พวกเขาจึงตัดสินใจลงจากรถและใช้วิธีเดิน เพื่อไปยังโมเทลตามหาช่างเครื่องคนเดิมที่ช่วยดูรถให้ แต่ช่างคนเดิมกลับไปแล้ว อีกทั้งช่างคนอื่นก็อยู่ไกลและอู่ก็ปิดแล้ว กว่าช่างจะมาทำงานก็ช่วงเช้า ผู้จัดการโมเทลจึงแนะนำห้องพักแก่พวกเขา ซึ่งในช่วงแรกหนังจะดำเนินเรื่องเรื่อย ๆ จนพอมาถึงโมเทล ให้ความรู้สึกว่าตัวละคร สถานที่ บรรยากาศดูน่าสงสัยไม่น่าไว้วางใจ และเมื่อเข้าไปในห้องพัก ในช่วงที่เข้ามาให้ความรู้สึกว่าห้องสวยน่านอน แต่จริง ๆ แล้วกลับสกปรกมาก และก็มีเสียงโทรศัพท์โทรเข้ามาหลายครั้งแต่ไม่มีใครพูด อีกทั้งเสียงเคาะประตูห้องข้าง ๆ ที่รบกวนพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาเริ่มรำคาญและสงสัยในหลาย ๆ อย่าง จึงไปถามผู้จัดการ แต่เขากลับตอบว่าที่นี่ไม่มีแขกคนอื่นเลยนอกจากพวกขี้เมาเท่านั้น เมื่อได้ยินแบบนี้พวกเขาจึงไม่ได้คิดอะไรและหาความบันเทิงดู ซึ่งในห้องก็มีทีวี พร้อมเทปหนัง แต่เทปที่พวกเขาเปิดดูกลับไม่ใช่หนังอย่างที่พวกเขาคิด ซึ่งในหนังเรื่องนั้นกลับมีหลาย ๆ จุดที่เหมือนกับห้องที่พวกเขาพักอยู่มาก
รูปที่ 2 หนังในเทปที่พวกเขาดู
เมื่อได้เห็นแบบนี้แล้ว พวกเขาจึงสังเกตหลาย ๆ อย่างในห้องและได้เจอกล้องหลายตัวที่ติดไว้คอยมองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งชวนติดตามตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบและค่อย ๆ ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นห้องก็ไฟดับ ยิ่งให้ความรู้สึกกลัวและตื่นตระหนกมากขึ้น ซึ่งในความมืดนั้นมีคนสวมหน้ากากคนหนึ่งกำลังแอบดูพวกเขาอยู่ แล้วเขาเข้ามาได้ยังไงกัน อีกทั้งแอปเปิ้ลที่พวกเขาทิ้งไว้ในรถก็มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
รูปที่ 3 ฆาตกรสวมหน้ากากที่แอบอยู่ในห้องของพวกเขา
พวกเขาจึงลองหนีออกมา แต่ว่าข้างนอกมีฆาตกรขวางพวกเขาอยู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอนพวกเขาจึงต้องหาวิธีไปโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือและหาอาวุธไว้ป้องกันตัว
รูปที่ 4 หนีออกมาโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ
ช่วงนี้ผู้ชายก็นั่งดูเทปเดิม เพื่อสังเกตหาข้อผิดพลาดในห้อง ถือได้ว่าตัวละครผู้ชายดูช่างสังเกตดีและพอมีสติในการควบคุมอารมณ์บ้าง
จากนั้นก็มีคนขับรถผ่านทางมาและกำลังเดินมาทางพวกเขา พวกเขาจึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมตะโกนให้เขาระวัง ซึ่งดูแล้วลุ้นเอาใจช่วยตัวละครตลอดทั้งเรื่องและสงสารตัวละครหลัก แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดไปจากที่นี่ได้หรือไม่กันนะ
คะแนน 7/10
ตัวอย่างหลังจากที่ได้ดูเรื่องนี้กันแล้ว ทำให้ช่วยเตือนสติตัวเราได้ว่า การเดินทางโดยใช้เส้นทางลัด ซึ่งอาจใช้เวลาในการเดินทางเร็วขึ้นหรือการเดินทางในที่เปลี่ยวยามดึก ล้วนไม่ปลอดภัยแน่นอน อีกทั้งไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้าเกินไปหรือก่อนที่จะเข้าพักที่ไหนก็ควรสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวก่อนนั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Hal Lieberman Company รูปที่ 1 / รูปที่ 2 / รูปที่ 3 / รูปที่ 4 / รูปที่ 5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น